KK คาดยอดขายปี 64 โต 20% มาตรการภาครัฐหนุน-ขยาย 3 สาขาใหม่, เล็งทำ M&A

นายกวิศพงษ์ สิริธนนนท์สกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ เซาท์เทิร์น (KK) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปี 64 เติบโตขึ้นราว 20% จากปีก่อนที่ทำยอดขยได้ 973 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาส 1/64 ได้รับอานิสงส์บวกจากมาตรการกระตุ้นกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจากการเพิ่มวงเงินในบัตรประชารัฐ และโครงการเราชนะ ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนได้มากขึ้น สนับสนุนยอดขายในช่วงไตรมาส 1/64 มีทิศทางที่ดี และในพื้นที่ภาคใต้ที่บริษัทมีสาขาร้านค้าปลีก ทั้งสงขลา พัทลุง และสตูล ไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระลอกใหม่ การดำเนินธุรกิจและการใช้ชีวิตของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นไปตามปกติ

“เศรษฐกิจในปีนี้แม้ว่าจะดีขึ้นแต่ก็ยังมีความท้าทายที่เราต้องรักษายอดขายไม่ไห้ตกลง และพยายามทำให้โตขึ้น ก็ต้องบอกว่าในไตรมาสแรกได้โครงการภาครัฐเข้ามาช่วยกระตุ้นทำให้ยอดขายมีทิศทางที่ดี และก็จะมีการทำการตลาดต่างๆ ขยายสาขาใหม่ไนช่วงปลายเม.ย.หรือต้นพ.ค.นี้ เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้น ช่วยดันยอดขายให้ดีขึ้นได้”นายกวิศพงษ์ กล่าว

ขณะเดียวกัน บริษัทวางแผนเปิดสาขาใหม่เพิ่มในปี 64 จำนวน 3 สาขา ซึ่งจะเน้นขยายไปใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นหลัก เนื่องจากเป็นพื้นที่หลักในการดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ก่อตั้ง บริษัทมีความรู้และประสบการณ์ในการทำการตลาดในพื้นที่ดังกล่าวมาอย่างยาวนาน และมีฐานลูกค้าที่มาจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเป็นพื้นที่ที่มีกำลังซื้อสูง และยังมีโอกาสอีกมากในเจาะขยายเข้าไปในชุมชนต่าง ๆ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น และอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า

ดังนั้น ในสิ้นปีนี้บริษัทจะมีสาขาทั้งสิ้น 31 สาขา จากสิ้นปีก่อนที่ 28 สาขา ได้แก่ สงขลา 25 สาขา พัทลุง 2 สาขา และสตูล 1 สาขา

นอกจากนี้ บริษัทยังมองโอกาสการขยายธุรกิจใหม่เพิ่มเติม โดยอยู่ระหว่างการเจรจาทำดีล M&A ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องที่สามารถนำมาจำหน่ายในร้านค้าของบริษัทได้ ซึ่งเป็นธุรกิจเชื่อมโยงกับธุรกิจของบริษัทในปัจจุบันอยู่ เพื่อนำมาต่อยอดการเติบโตในอนาคต อีกทั้งบริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาระบบการให้บริการออนไลน์ต่อเนื่อง ในแอปพลิเคชั่นของบริษัท ทั้งการพัฒนาระบบบัตรสมาชิกออนไลน์ การพัฒนาบริการสั่งสินค้าผ่านทางออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกของลูกค้าได้มากขึ้น และช่วยเป็นช่องทางในการเร่งการตัดสินใจซื้อของลูกค้า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 เม.ย. 64)

Tags: , , ,
Back to Top