นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้น รับแรงหนุนจากต่างชาติ-กองทุนพร้อมกันกันซื้อวานนี้ดันดัชนีฯขึ้นทำ New High ที่ 1,592 จุด แม้จะยืนไม่อยู่ก็ตาม แต่วันนี้มีลุ้นขึ้นทดสอบ 1,590 อีกครั้ง เล็งรับแรงหนุนจากกลุ่มค้าปลีก-พลังงาน หลังราคาน้ำมันยังขึ้น และลุ้นมาตรการช้อปดีมีคืนในการประชุมครม.วันนี้-อากาศร้อนคนจะเข้าห้างฯกัน ส่วนกลุ่มแบงก์ก็ได้แรงหนุนจาก Bond yield สหรัฐฯอายุ 10 ปี ทะลุ 1.7% เมื่อคืนที่ผ่านมา ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้แกว่งบวก-ลบ พร้อมให้แนวรับ 1,580-1,575 แนวต้าน 1,590-1,595 จุด
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโมเมนตัมเป็นบวกอยู่ทำให้น่าจะปรับตัวขึ้นได้ได้แต่ก็น่าจะอยู่ในกรอบจำกัดในระดับหนึ่ง เนื่องจากวานนี้นักลงทุนต่างชาติ และกองทุนได้กลับมาซื้อพร้อมกันทำให้ดันดัชนีฯขึ้นทำ New high ได้ที่ 1,592 จุด แต่ก็ยืนไม่อยู่จากแรงขายทำกำไรเข้ามา อีกทั้งวอลุ่มเทรดก็ดูจะหดหายไปด้วย แต่เช้านี้ก็มีโอกาสที่จะลุ้นขึ้นทดสอบ 1,590 จุดได้
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันยังปรับตัวขึ้นแม้ว่าเรือที่ติดอยู่จะออกจากคลองสุเอซได้แล้ว อาจเป็นผลจากคาดหวังผลประชุมกลุ่มโอเปกพลัสที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 เม.ย.นี้ โดยคาดว่าจะคงกำลังการผลิตน้ำมัน และยังคาดว่า Demand จะดีขึ้นด้วย แต่เช้านี้ราคาน้ำมันฟิวเจอร์สได้อ่อนลงเล็กน้อย
นอกจากนี้ วันนี้ให้ติดตามผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ลุ้นออกมาตรการช้อปดีมีคืนอีกครั้ง และอากาศร้อนคนก็จะเข้าห้างสรรพสินค้ากัน ซึ่งก็น่าจะหนุนหุ้นในกลุ่มค้าปลีกได้ ดังนั้นวันนี้หุ้นกลุ่มค้าปลีก และกลุ่มพลังงานน่าจหนุนตลาดฯได้วันนี้ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ได้ขึ้นทะลุ 1.7% เมื่อคืนที่ผ่านมา ก็น่าจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มแบงก์ได้ด้วย
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมให้แนวรับ 1,580-1,575 จุด ส่วนแนวต้าน 1,590-1,595 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (29 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,171.37 จุด เพิ่มขึ้น 98.49 จุด (+0.30%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,971.09 จุด ลดลง 3.45 จุด (-0.09%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,059.65 จุด ลดลง 79.08 จุด (-0.60%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2.77 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 19.48 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 214.47 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (29 มี.ค.) 1,583.89 จุด เพิ่มขึ้น 9.03 จุด (+0.57%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,740.94 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 64
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (29 มี.ค.) ปิด 61.56 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ หรือ 1%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (29 มี.ค.) อยู่ที่ 1.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.20/24 แนวโน้มอ่อนค่าหลังบอนด์ยีลด์สหรัฐเพิ่ม กรอบวันนี้ 31.15-31.25
- สทท.จี้รัฐเพิ่ม “กรุงเทพฯ” นำร่องเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัว เริ่ม 1 ต.ค.นี้ เสริมทัพเมืองท่องเที่ยวหลัก 6 พื้นที่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุย พัทยา เชียงใหม่ ดันยอดเพิ่มอีก 3 ล้านคน ใกล้เคียงเป้ารวมปีนี้ 6.5 ล้านคน “พิพัฒน์” จ่อชง ครม.ปรับไทม์ไลน์ใหม่ เปิด “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” เร็วขึ้น ตลาดทุนขานรับมองเป็น ข่าวดีหนุนหุ้นไทย
- ธปท.ชี้ “แบงก์-นอนแบงก์” แห่ขออนุญาตปล่อยสินเชื่อบุคคลดิจิทัลคึกคัก ล่าสุดไฟเขียว 2 ราย แย้มอยู่ระหว่าง พิจารณาอีกหลายราย หวังช่วยประชาชนเข้าถึงสินเชื่อ ลดพึ่งพาหนี้นอกระบบ ด้านกรุงศรีฯ จ่อยื่นขอไลเซ่นส์ แนวโน้มธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง
- นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 64 ว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประเมินบรรยากาศในช่วงวันหยุดยาว 6 วัน ระหว่างวันที่ 10-15 เม.ย.64 จะคึกคักมากกว่าช่วงวันหยุดตรุษจีนและวันมาฆบูชาที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วงที่คนไทยเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาเพื่อร่วมประเพณีสงกรานต์ เยี่ยมญาติ และถือโอกาสเดินทางท่องเที่ยวไปพร้อมๆ กัน และยังมีแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายต่างๆ ของภาครัฐ เช่น เราเที่ยวด้วยกัน เราชนะ และม 33 เรารักกัน จะส่งผลให้มีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศประมาณ 3.20 ล้านคน-ครั้ง และสร้างรายได้หมุนเวียนในพื้นที่ประมาณ 12,000 ล้านบาท
- คลังไม่หยุดฝันดันจีดีพีปีนี้โต 4% ลุ้นส่งออก-ท่องเที่ยว-ลงทุนฟื้น ช่วยหนุนเต็มพิกัด เตรียมปรับประมาณการใหม่เดือนหน้า มองทิศทางดีขึ้นต่อเนื่อง หลังเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ชี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยพยุงการใช้จ่ายภายในประเทศ
- รฟท.เซ็นก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน อีก 3 สัญญา วงเงินรวม 2.7 หมื่นล้าน “ศักดิ์สยาม” เผย 2 สัญญา จะเร่งเคลียร์พื้นที่ส่งมอบภายใน 2 เดือน อีกสัญญาต้องรอเวนคืนก่อน ส่วนความคืบหน้าล่าสุด เซ็นไปแล้ว 10 สัญญา เหลืออีก 4 สัญญา ลุ้นปิดดีลภายในปีนี้ ระบุช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ติดปัญหาไฮสปีด 3 สนามบิน ช่วงดอนเมือง-นวนคร ส่อยกเลิกประมูล หลังรับเหมากดราคา จนไม่มาทำสัญญา แย้มงานโยธาเสร็จปลาย ปี 69 เปิดบริการต้นปี 70
หุ้นเด่นวันนี้
- TNP (กรุงศรี) “ซื้อ”เป้าสูงสุด IAA Consensus 5.2 บาท เดินหน้าทำ New high ได้แรงหนุนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นรับมาตรการกระตุ้น คาดกำไรสุทธิ Q1/64 กำลังซื้อของภาครัฐ อาทิ มาตรการคนละครึ่ง และมาตรการเราชนะ
- BJC (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ”เป้า 42 บาท ได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศ คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนตั้งแต่ Q2/64 เป็นต้นไป โดย Q2/63 มีฐานที่ต่ำจากการล็อกดาวน์ (ส่งผลโดนตรงต่อยอดขายกลุ่มค้าปลีก ขณะเดียวกันก็ส่งผลลบต่อรายได้ค่าเช่าที่มี Margin สูงด้วย) และการงดขายแอลกอฮอล์(ปกติแล้วเดือน เม.ย. เทศกาลสงกรานต์จะมียอดขายสินค้ากลุ่มนี้มากเป็นพิเศษ) นอกจากปัจจัยลบดังกล่าวในปีที่แล้ว ในปีนี้ BJC ยังจะได้รับประโยชน์จากจัดองค์กรใหม่ในปี 63 ส่งผลให้ SG&A ลดลง(ประมาณ 220 ลบ./ไตรมาส) การเพิ่ม Efficiency ในกลุ่มธุรกิจ Packaging ซึ่ง GPM ขยับสูงขึ้นมาราว 1.5-2.0% และ การขยายสาขาของ Mini BigC สำหรับกำไรสุทธิ ปี 64-65 เบื้องต้นประเมินอยู่ที่ 5,980 ลบ.(+49.45%YoY) และ 6,519 ลบ.(+9.02%YoY)
- CPALL (เคจีไอ) “เก็งกำไร”เป้า 84 บาท ประเมินผลการดำเนินงานจะเริ่มฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ และมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐฯ (บวกทางอ้อมต่อ CPALL) และการเตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยวใน H2/64 รวมถึงคาด Same store sales growth ฟื้นตัวทั้งจากปริมาณขาย และราคาสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม (ผลจากเงินเฟ้อ)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 มี.ค. 64)
Tags: SET Index, กิติชาญ ศิริสุขอาชา, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย