นายตัน ภาสกรนที ประธานกรรมการ บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI) กล่าวถึงแผนการดำเนินงานปี 2564 ว่า บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายเติบโตขึ้น 21.6% หรือราว 6,200 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 5,099 ล้านบาท โดยคาดรายได้ 1 พันล้านบาทจะมาจากกลุ่ม Non-Tea เช่น วิตามินวอเตอร์ น้ำด่าง 8.5 และเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มชา พร้อมทั้งธุรกิจ OEM ที่จะเริ่มบันทึกรายได้ในไตรมาส 2/64 อีก 300 ล้านบาท
โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าใช้อัตราการใช้กำลังผลิต (utilization rate ) ที่ 63% จากปีที่แล้วอยู่ที่ 52%
ในส่วนของผลิตภัณฑ์ Non-Tea ที่เป็นเครื่องดื่มที่จะมีสารสกัดจากกัญชง ทางบริษัทยังคงรอความชัดเจนของข้อกำหนดจากทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เรื่องการนำสารสกัดจากกัญชงใส่ในเครื่องดื่มซึ่งคาดว่ากฎหมายจะชัดเจนในเดือนเมษายนและจะสามารถวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ได้ไม่เกินสิ้นปีนี้ โดยทางบริษัทได้เตรียมพร้อมทางด้านการผลิตบรรจุภัณฑ์หรือฉลากเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายตันยังกล่าวอีกว่าทางบริษัทมีความพร้อมในการทำเครื่องดื่มที่มีสารสกัดกัญชงมาก มีการลงนามทำสัญญาข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)กับบริษัทที่สกัดสารจากกัญชงเอาไว้แล้ว มีโรงงาน เครื่องจักร และเทคโนโลยีที่มีศักยภาพพร้อมสำหรับการผลิต ซึ่งทางบริษัทไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่ม หรืออาจจะมีการลงทุนด้านการตลาดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะในปัจจุบันผู้บริโภคก็ให้ความสนใจกับกระแสกัญชากัญชงเป็นอย่างมากอยู่แล้ว และหากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวประสบความสำเร็จก็อาจจะรับผลิตให้กับบริษัทอื่นด้วยในอนาคต
อย่างไรก็ดี เดือนเม.ย.ที่จะถึงนี้ จะมีการออกผลิตภัณฑ์ ICHITAN GREEN LAB โดยจะสกัดจากพืชชนิดอื่นที่มีกลิ่นเทอร์ปีน มีลักษณะคล้าย ๆ กับกัญชง โดยจะมีส่วนผสมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะออกมาเพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับเครื่องดื่มเทอร์ปีนให้กับลูกค้า ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทด้วย โดยที่ผ่านมาได้นำสินค้าให้กับพาร์ทเนอร์ทดลอง พบว่ามีหลายบริษัทที่ให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ห้างเทสโก้ โลตัส และบริษัทอื่น ๆ
โดยทางบริษัทคาดว่าหลังจากวางจำหน่ายจะสามารถสร้างรายได้ให้กับทางบริษัทได้ถึงเดือนละ 50 ล้านบาท อีกทั้งในปีนี้จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ของทางบริษัท ไม่ว่าจะเป็นอิชิตันน้ำด่างผสมวิตามินดีและสารสกัดใบแปะก๊วย ซึ่งจะวางจำหน่ายสิ้นเดือนเมษายน ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำด่าง 8.5 เติบโตเป็นสัดส่วนที่ถาวรและต่อเนื่อง รวมไปถึงจะ Reluanch วิตามินวอเตอร์ C200 เพื่อที่จะแข่งขันในตลาดที่มีผู้แข่งขันเข้ามาเป็นจำนวนมาก
ในส่วนของธุรกิจ OEM มองว่าในปีนี้จะเป็นปีทองของบริษัทเนื่องจากทางบริษัทมีโรงงาน เครื่องจักร และเทคโนโลยีที่มีศักยภาพพร้อมสำหรับการผลิตอยู่แล้ว บวกกับกระแสเครื่องดื่มที่มีสารสกัดจากกัญชงซึ่งผู้บริโภคให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ทำให้มีโอกาสรับจ้างผลิต หรือ OEM มากขึ้น ที่มีอีกหลายบริษัทให้ความสนใจก็จะมีการผลิต OEM เพิ่มสูงขึ้นด้วย
โดยปัจจุบันมี 2 บริษัทใหญ่ที่จ้างการผลิตแบบ OEM คือบริษัท Asahi Holdings Souteast Asia ที่ให้ผลิตเครื่องดื่มและส่งไปจำหน่ายในประเทศฟิลิปปินส์ทั้งในร้านค้าปลีกและเซเว่นอีเลฟเว่น และอีกบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีการจ้างให้ผลิตทั้งเครื่องดื่มวิตามินและเครื่องดื่มเทอร์ปีน ซึ่งจะจัดจำหน่ายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ประเทศไทย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 มี.ค. 64)
Tags: ICHI, ตัน ภาสกรนที, อิชิตัน กรุ๊ป