ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลงกว่า 100 จุดในช่วงเช้านี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งจะเปิดเผยแผนการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่คาดว่าจะมีมูลค่าสูงกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ ในวันพุธนี้
ณ เวลา 11.51 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลง 112 จุด หรือ -0.34% แตะที่ 32,842 จุด
นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ปธน.ไบเดนจะเปิดเผยแผนการใช้จ่ายในโครงการโครงสร้างพื้นฐานในวันพุธนี้ โดยจะมุ่งเน้นไปที่การซ่อมบำรุงถนนและทางรถไฟ
ก่อนหน้านี้ นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้สนับสนุนการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน โดยเชื่อมั่นว่า การลงทุนดังกล่าวจะช่วยสร้างงานและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวรวดเร็วขึ้น
อย่างไรก็ดี นางเยลเลนกล่าวว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อเสนอด้านภาษีเพื่อที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน
“หนึ่งในข้อเสนอด้านภาษีที่ปธน.ไบเดนจะพิจารณาก็คือ การปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้กลับมาอยู่ที่ระดับ 28% โดยในปัจจุบันภาษีเงินได้นิติบุคคลของสหรัฐอยู่ในระดับต่ำสุดในบรรดากลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว”
นางเยลเลนกล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ด้วย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นราว 630,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 6% จากระดับ 6.2%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 มี.ค. 64)
Tags: ดาวโจนส์, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก, เจน ซากี, โจ ไบเดน