น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านโครงการ “คนละครึ่ง” “เราชนะ” “ม33 เรารักกัน” ทั้ง 3 โครงการ สามารถแบ่งเบาภาระประชาชนจากผลกระทบโควิด-19 ได้มาก รวมถึงเพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบคาดว่าไม่ต่ำกว่า 2.5 แสนล้านบาท (ตัวเลข ณ วันที่ 25 มี.ค.) ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ทั้งสิ้นมากกว่า 1.5 ล้านกิจการ รวมถึงผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมากก็ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้อย่างมากด้วย
- สำหรับโครงการ “คนละครึ่ง” ขณะนี้มีผู้ใช้สิทธิครบ 3,500 บาท แล้ว 6.38 ล้านคน จากจำนวนผู้ได้รับสิทธิ 14.79 ล้านราย โดยมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นรวม ณ 20 มี.ค. จำนวน 100,042 ล้านบาท เป็นการใช้จ่ายจากภาคประชาชน 51,214 ล้านบาท รัฐช่วยจ่าย 48,828 ล้านบาท
ส่วนโครงการฯ ในเฟส 3 ทางกระทรวงการคลังแจ้งว่าอยู่ระหว่างการออกแบบโครงการ ซึ่งจะออกมาได้หลังจากที่โครงการเราชนะ และ ม33 เรารักกัน สิ้นสุดในช่วงเดือนพฤษภาคม 2564
- โครงการ “เราชนะ” ขณะนี้มีจำนวนผู้ได้รับสิทธิ 32.4 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 1.53 แสนล้านบาท
- โครงการ “ม33 เรารักกัน” มีผู้ได้รับสิทธิแล้ว 7.4 ล้านคน เริ่มโอนเงินงวดแรก 1 พันบาท แก่ผู้ได้รับสิทธิ เมื่อ 22 มี.ค. มียอดการใช้จ่ายประมาณ 750 ล้านบาท และจะเปิดให้ยื่นทบทวนสิทธิ ถึงวันที่ 28 มี.ค. นี้ ทาง www.ม33เรารักกัน.com โดยประกาศผล วันที่ 5-11 เม.ย. 64 ทางเว็บไซต์เช่นเดียวกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 มี.ค. 64)
Tags: กระตุ้นเศรษฐกิจ, คนละครึ่ง, ม33เรารักกัน, รัชดา ธนาดิเรก, เราชนะ