น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความสำเร็จของโครงการคนละครึ่งว่า ณ วันที่ 25 มี.ค.64 โครงการดังกล่าวมียอดการใช้จ่ายสะสม 100,042 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินที่ประชาชนจ่าย 51,214 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 48,828 ล้านบาท โดยมีผู้ใช้สิทธิจำนวน 14,793,502 คน เป็นการใช้จ่าย 3,000 บาทขึ้นไป จำนวน 12,959,425 คน และใช้จ่ายครบ 3,500 บาท จำนวน 6,624,037 คน
“การใช้จ่ายกระจายไปทุกจังหวัดทั่วประเทศแสดงถึงความสำเร็จอย่างสูงในการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ และฟื้นฟูเศรษฐกิจจนถึงระดับฐานรากทั่วประเทศ ซึ่งจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี สมุทรปราการ สงขลา และเชียงใหม่”
น.ส.กุลยา กล่าว
ทั้งนี้ ผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งจะสามารถใช้จ่ายได้จนถึงวันที่ 31 มี.ค.64 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดโครงการ ดังนั้นจึงขอเชิญชวนให้ประชาชนที่ยังมีวงเงินเหลือรักษาสิทธิของท่านโดยการเร่งใช้จ่ายให้ครบ 3,500 บาทภายในกำหนด ซึ่งจะเป็นการช่วยสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจผ่านการบริโภคภายในประเทศอีกด้วย
น.ส.กุลยา กล่าวว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ได้มีนโยบายให้ขยายระยะเวลาการเปิดรับลงทะเบียนโครงการ “เราชนะ” สำหรับกลุ่มผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง (ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทุพพลภาพ ผู้ป่วยติดเตียง) ที่ไม่สามารถเดินทางออกจากที่พักอาศัยได้และจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยรับลงทะเบียนเคลื่อนที่ ออกไปเป็นครั้งที่ 3 จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 26 มี.ค.64 เป็นวันที่ 9 เม.ย.64
สำหรับความคืบหน้าของโครงการ” เราชนะ” ณ วันที่ 26 มี.ค.64 มีผู้ได้รับสิทธิในโครงการ “เราชนะ” แล้วรวมทั้งสิ้นจำนวน 32.4 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 160,716 ล้านบาท ประกอบด้วย
- 1) ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.64 เป็นต้นมา จำนวน 60,201 ล้านบาท
- 2) ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิร่วมโครงการเราชนะแล้ว จำนวน 16.7 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิสะสมตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.64 เป็นต้นมา จำนวน 92,106 ล้านบาท
- 3) ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.0 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิสะสมตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.64 เป็นต้นมา จำนวน 8,409 ล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 มี.ค. 64)
Tags: กระทรวงการคลัง, กุลยา ตันติเตมิท, คนละครึ่ง, สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง, อาคม เติมพิทยาไพสิฐ