ธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวแซงหน้าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก แต่อีกหลายประเทศในภูมิภาคแห่งนี้ยังเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก เนื่องจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาด
ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 8.1% ในปี 2564 เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.3% ในปี 2563 ซึ่งจะช่วยหนุนเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกให้ขยายตัว 7.4% ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.2% ในปี 2563
ขณะเดียวกันธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเวียดนามจะขยายตัว 6.6% ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 2.9% ในปีที่ผ่านมา โดยเศรษฐกิจจีนและเวียดนามเป็นสองประเทศในบรรดาไม่กี่ประเทศที่ได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2563
ทั้งนี้ ธนาคารโลกระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจในแต่ละประเทศนั้น จะขึ้นอยู่กับการควบคุมการแพร่ระบาด, ความสามารถในการชิงความได้เปรียบในช่วงที่การค้าระหว่างประเทศเริ่มฟื้นตัว และศักยภาพของรัฐบาลในการจัดหามาตรการสนับสนุนด้านการเงินและการคลัง
นอกจากนี้ ธนาคารโลกระบุว่า ความสำเร็จในการดำเนินโครงการฉีดวัคซีน และการควบคุมการแพร่ระบาดได้เร็ว รวมทั้งการปฏิรูปนโยบายอย่างมีนัยสำคัญ และการส่งเสริมเทคโนโลยีใหม่ๆ จะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่หากการควบคุมโรคโควิด-19 เป็นไปอย่างล่าช้า ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจรุนแรงกว่าที่คาดไว้ และเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วก็จะส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสูงขึ้น และจะทำให้วัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถป้องกันไวรัสได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 มี.ค. 64)
Tags: จีน, ธนาคารโลก, เวิลด์แบงก์, เศรษฐกิจจีน, เศรษฐกิจเวียดนาม, เอเชียตะวันออกและแปซิฟิก