ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 20-21 ม.ค.โดยระบุว่า กรรมการรายหนึ่งของ BOJ กล่าวว่า BOJ ต้องหาแนวทางในการสนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมการปรับปรุงธุรกิจไปสู่ระบบดิจิทัลและสังคมที่ปลอดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ซึ่งบ่งชี้ว่าแนวคิดดังกล่าวอาจกลายเป็นหนึ่งในทางเลือกด้านนโยบายในอนาคตของ BOJ
“จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสนับสนุนกิจกรรมของภาคธุรกิจเพื่อการเติบโตในอนาคตเช่นการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา, การปฏิรูปพอร์ตการลงทุนของภาคธุรกิจ, ความพยายามในการผลักดันธุรกิจสู่ระบบดิจิทัล และสร้างสังคมที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน” กรรมการ BOJ กล่าว
อย่างไรก็ดี กรรมการรายอื่นๆของ BOJ มองว่า “ไม่ใช่เรื่องง่าย” ที่จะใช้นโยบายการเงินในการแก้ไขความท้าทายเชิงโครงสร้างที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเผชิญ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือกันเกี่ยวกับการทบทวนนโยบายการเงิน โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้นโยบายดังกล่าวมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะรับมือกับภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจที่ยืดเยื้อมานาน
กรรมการรายหนึ่งแสดงความเห็นว่า การปล่อยให้อัตราผลตอบแทนระยะยาวมีความผันผวนมากขึ้นนั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากนัก เนื่องจากการกู้ยืมของภาคเอกชนมีความเชื่อมโยงกับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น
ในการประชุมเมื่อวันที่ 20-21 ม.ค. คณะกรรมการ BOJ มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ ซึ่งรวมถึงการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ -0.1% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ระดับราว 0%
นอกจากนี้ ที่ประชุม BOJ ยังคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในปีงบประมาณ 2564 ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีนี้ จะขยายตัว 3.9% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนต.ค.ปีที่ผ่านมาว่าจะขยายตัว 3.6%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 มี.ค. 64)
Tags: BOJ, ธนาคารกลางญี่ปุ่น, นโยบายการเงิน