รัฐบาลออสเตรเลียวางแผนอพยพประชาชนหลายพันรายในวันนี้จากพื้นที่ชานเมืองด้านตะวันตกของเมืองซิดนีย์ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยซึ่งรุนแรงที่สุดในรอบ 60 ปี โดยคาดว่าจะยังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง
ออสเตรเลียต้องเผชิญกับพายุฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ทำให้แม่น้ำในรัฐนิวเซาท์เวลส์ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชาชนอาศัยอยู่มากที่สุดในประเทศเอ่อล้นจนไหลท่วมพื้นที่และสร้างความเสียหายอย่างมาก จนรัฐบาลต้องประกาศเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่
“คาดว่าระดับน้ำน่าจะสูงกว่าน้ำท่วมครั้งใดๆ นับตั้งแต่ปี 2504” หน่วยงานรับมือเหตุฉุกเฉินของออสเตรเลียประกาศผ่านทวิตเตอร์เมื่อวานนี้ โดยกรมอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลียคาดว่า จะยังคงมีฝนตกหนักเช่นนี้ต่อไปจนถึงวันที่ 24 มี.ค.
จากวิดีโอที่เผยแพร่ทางโทรทัศน์และโซเชียลมีเดีย มวลน้ำที่ไหลเข้าท่วมในพื้นที่อย่างรวดเร็วได้ส่งผลให้บ้านเรือน รถยนต์ รวมไปถึงสัตว์ในฟาร์มถูกพัดพาไปกับกระแสน้ำ และยังทำให้ถนน สะพาน บ้านเรือน และฟาร์มต่างๆ ถูกน้ำท่วมจนมิด
หน่วยงานรับมือเหตุฉุกเฉินเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้อพยพประชาชนเกือบ 2 พันคนออกจากพื้นที่ที่มีระดับต่ำแล้ว
ทั้งนี้ คาดว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ตามชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลียจะได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากฝนตกหนักในวันนี้ เนื่องมาจากอิทธิพลของบริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อนในพื้นที่ตอนเหนือของรัฐออสเตรเลียตะวันตก ประกอบกับร่องความกดอากาศต่ำตามแนวชายฝั่งรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐควีนส์แลนด์
“พายุและอุทกภัยที่เรากำลังเผชิญในขณะนี้มีความรุนแรงและเคยเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ครั้ง และยังเป็นสภาพอากาศที่มีความซับซ้อนมาก จึงทำให้เป็นช่วงเวลาที่รับมือได้ยากลำบากอย่างยิ่ง” นายสก็อต มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียกล่าวกับผู้สื่อข่าวของสถานีวิทยุ 2GB ในวันนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 มี.ค. 64)
Tags: ซิดนีย์, น้ำท่วม, ฝนตกหนัก, รัฐควีนส์แลนด์, รัฐนิวเซาท์เวลส์, ออสเตรเลีย, อุทกภัย