ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) เปิดเผยว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ในสหรัฐอยู่ที่ 6,390 ราย เมื่อนับถึงวันอาทิตย์ (21 มี.ค.) ที่ผ่านมา
เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.1.7 ซึ่งตรวจพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร ครองสัดส่วนมากที่สุด ตามด้วยสายพันธุ์ B.1.351 ซึ่งตรวจพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ จำนวน 194 ราย และสายพันธุ์ P.1 ซึ่งตรวจพบครั้งแรกในบราซิล จำนวน 54 ราย
นอกจากนั้น ยังมีเชื้อไวรัสสายพันธุ์ B.1.427 และสายพันธุ์ B.1.429 ซึ่งถูกตรวจพบครั้งแรกในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ และอยู่ระหว่างการเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด
ปัจจุบัน CDC ระบุว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้ง 5 สายพันธุ์ข้างต้น ถือเป็น “สายพันธุ์ที่น่าวิตกกังวล” เนื่องจากมีหลักฐานชี้ว่าแพร่ระบาดง่ายขึ้น ทำให้ผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตเพิ่มขึ้น ลดประสิทธิภาพการลบล้างฤทธิ์ของแอนติบอดีที่เกิดจากการติดเชื้อหรือฉีดวัคซีนลงอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งลดประสิทธิภาพการรักษาหรือวัคซีน หรือทำให้การตรวจวินิจฉัยล้มเหลว
CDC กำลังร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อเพิ่มการจัดลำดับพันธุกรรมของตัวอย่างจำนวนมากในห้องปฏิบัติการทั่วประเทศ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐกล่าวว่า มาตรการป้องกันต่างๆ เช่น การใช้หน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง ล้างมือให้สะอาด และฉีดวัคซีนอย่างทันท่วงที จะช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 และเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 มี.ค. 64)
Tags: COVID-19, XINHUA, บราซิล, ผู้ติดเชื้อโควิด-19, สหรัฐ, สหราชอาณาจักร, แอฟริกาใต้, โควิด-19, โควิดกลายพันธุ์