นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เปิดเผยว่า ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือนก.พ. 64 อยู่ที่ 79,470 คัน ลดลง 16.52% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 7.20% จากเดือนม.ค. 64 โดยมีมูลค่าส่งออก 43,081.65 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 9.23%
ทั้งนี้ ยอดส่งออกที่ลดลงจากตลาดออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ตะวันออกกลาง ยุโรป และ แอฟริกา แต่ส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย อเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และอเมริกาใต้
ขณะที่จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนก.พ. มีทั้งสิ้น 155,200 คัน เพิ่มขึ้น 3.05% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 4.78% จากม.ค.64 เนื่องมาจากการผลิตเพื่อการส่งออกเพิ่มขึ้น 5.91% และมีสัดส่วนถึง 56.90% ของยอดการผลิตทั้งหมด
ส่วนยอดขายในประเทศ เดือนก.พ.64 มีจำนวนทั้งสิ้น 58,960 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10.9% แต่เพิ่มขึ้น 6.80% จากเดือนม.ค.64 ยอดขายที่ลดลงมาจากความกังวลการระบาดของโควิด-19 รอบสองตั้งแต่ปลายเดือนธ.ค.63 และกระจายไปอีกหลายจังหวัด ทำให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่และเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น ประชาชนจึงระวังการใช้จ่ายมากขึ้น สถาบันการเงินก็เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น คาดว่างานมอเตอร์โชว์ในวันที่ 24 มี.ค.-4 เม.ย. จะกระตุ้นยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้นได้ดังเช่นปีที่แล้ว
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ขณะที่การฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก ช่วยกระตุ้นยอดส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะชิ้นส่วนและอะไหล่เนื่องจากโรงงานในต่างประเทศเริ่มกลับมาเปิดโรงงานผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้น แต่แนวโน้มยอดขายในประเทศยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 จากความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยหวังยอดขายรถยนต์ในประเทศจะเพิ่มขึ้นได้จากการจัดงานมอเตอร์โชว์ในช่วงปลายเดือน มี.ค.นี้
ทั้งนี้ ขอรอดูสถานการณ์อีก 1-2 เดือน ก่อนจะปรับเป้ายอดขายในประเทศเพิ่มจาก 7.9 แสนคันในปี 63 เป็น 8.4-8.5 แสนคันในปีนี้ หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายและไม่มีปัญหาเรื่องขาดแคลนชิพสมองกล ส่วนยอดส่งออกปีนี้น่าจะอยู่ที่ 8 แสนคัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 มี.ค. 64)
Tags: รถยนต์, ส.อ.ท., ส่งออกรถยนต์, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์, เศรษฐกิจไทย