กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานเบื้องต้นในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนก.พ. ลดลง 4.5% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ระดับ 6.04 ล้านล้านเยน (5.5 หมื่นล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากอุปสงค์สินค้าญี่ปุ่นในตลาดสหรัฐ เช่น รถยนต์ ยังคงซบเซา อันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ ยอดส่งออกสินค้าจากญี่ปุ่นไปยังสหรัฐ ลดลง 14% ซึ่งปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 และยอดส่งออกไปยังสหภาพยุโรป (EU) ลดลง 3.3% ซึ่งได้บดบังยอดการส่งออกไปยังประเทศจีนที่มีการขยายตัว 3.4%
หากพิจารณาในแง่ของสินค้าส่งออก ยอดส่งออกรถยนต์ ร่วงลง 12.9% ขณะที่ยอดส่งออกเชื้อเพลิง เช่น น้ำมันดีเซล ทรุดตัวลง 40.7% และยอดส่งออกเรือ ลดลง 27.5%
ส่วนยอดนำเข้าของญี่ปุ่นในเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 11.8% แตะที่ 5.82 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 22 เดือน เนื่องจากยอดนำเข้าจากจีนพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนก.พ. หลังทรุดตัวลงอย่างหนักในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว อันเนื่องมาจากผลกระทบของโรคโควิด-19
รายงานของกระทรวงระบุว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าในเดือนก.พ.ทั้งสิ้น 2.1738 แสนล้านเยน ลดลง 80.5% เมื่อเทียบรายปี อย่างไรก็ดี ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าการค้าญี่ปุ่นกลับมาเกินดุลอีกครั้ง หลังจากที่ขาดดุล 3.2538 แสนล้านเยนในเดือนม.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 มี.ค. 64)
Tags: การส่งออก, ญี่ปุ่น, สหรัฐ, เศรษฐกิจญี่ปุ่น