กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกรายงานเตือนในวันนี้ว่า การที่ราคาบ้านในนิวซีแลนด์พุ่งขึ้นอย่างไม่เหมาะสมนั้น จะส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการทรุดตัวอย่างรุนแรง
IMF ระบุว่า แม้ความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจนิวซีแลนด์สามารถฟื้นตัวได้รวดเร็วกว่าประเทศอื่นๆ แต่การที่รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นด้านการเงินและการคลังจำนวนมากนั้นได้ส่งผลให้มูลค่าตลาดอสังหาริมทรัพย์พุ่งขึ้นอย่างมาก
IMF ออกรายงานเตือนหลังจากสถาบัน Real Estate Institute of New Zealand (REINZ) เปิดเผยข้อมูลล่าสุดระบุว่า ราคากลางของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยในนิวซีแลนด์พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 22.8% ในเดือนก.พ. ส่วนราคากลางของที่อยู่อาศัยในเมืองโอ๊คแลนด์ซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดนั้น ทะยานขึ้นสูงถึง 24.3% แตะที่ 1,100,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ หรือประมาณ 794,750.00 ดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ IMF ระบุว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพด้านการเงินของนิวซีแลนด์เกิดขึ้นหลังจากพบว่ามีการซื้อบ้านเพื่อเก็งกำไร นอกจากนี้การที่อัตราดอกเบี้ยของนิวซีแลนด์อยู่ในระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ และปัญหาขาดแคลนที่อยู่อาศัยนั้น เป็นสาเหตุที่เร่งให้ราคาบ้านพุ่งขึ้นด้วย
“ราคาบ้านที่พุ่งขึ้นโดยไม่สอดคล้องกับรายได้, การคุมเข้มด้านการปล่อยสินเชื่อ และอัตราดอกเบี้ยจำนองที่พุ่งขึ้นอย่างมากนั้น อาจจะส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการทรุดตัวลงในที่สุด โดยรัฐบาลจำเป็นต้องออกนโยบายที่ครอบคลุม ซึ่งรวมถึงการใช้มาตรการระบายสต็อกบ้าน และสกัดกั้นการซื้อบ้านเพื่อเก็งกำไร” รายงานของ IMF ระบุ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 มี.ค. 64)
Tags: นิวซีแลนด์, อสังหาริมทรัพย์, ไอเอ็มเอฟ