พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 นครศรีธรรมราช ว่า มีการซื้อสิทธิขายเสียงโดยพรรครัฐบาล เพราะเป็นไปได้อย่างไรที่อยู่ดีๆ พรรคพลังประชารัฐและพรรคประชาธิปัตย์จะได้เสียงเพิ่มมาหมื่นกว่าเสียง ซึ่งผู้สมัครก็ยังไม่ได้ทำความดีอะไร และยังไม่มีใครได้เข้าสภา แต่ขณะที่พรรคเสรีรวมไทยได้ทำงานมาโดยตลอด
“ทั้งพรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชารัฐต่างก็ซื้อเสียงทั้งนั้น ซื้อเสียงพี่น้องประชาชนตลอด รวมถึงพรรคพลังประชารัฐยังมีการขนคน ขนทัพลงไปช่วยกันซื้อเสียงเต็มที่ ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้วัดกันที่กำลังเงิน ผมมีข้อมูลแต่สามารถเอาผิดได้ แค่ตัวเล็กๆ ในครั้งนี้ จึงจะไม่มีการฟ้องร้องใดๆ เพราะในครั้งที่มีการเลือกตั้งที่จังหวัดลำปางและสมุทรปราการมีหลักฐานชัดเจนได้ยื่น กกต.ไปแล้ว แต่เรื่องก็ยังเงียบเฉย ดังนั้นครั้งนี้ผมจะฟ้อง กกต.แทน เพราะ กกต.ถือว่าไม่มีปัญญาในการป้องกันการซื้อสิทธิขายเสียง แต่ยังลงไปสร้างภาพ ปล่อยให้มีการซื้อสิทธิขายเสียงขนาดนี้”
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคฯ ลงพื้นที่เองหรือไม่นั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร เดินไม่ไหวแล้ว ขึ้นเวทียังต้องทำลิฟท์ให้ แล้วสุดท้ายก็ต้องมาทำลิฟท์ให้ในทำเนียบอีก แบบนี้จะไปช่วยอะไร อย่าบอกว่าพรรคพลังประชารัฐเดินเคาะประตูตามบ้าน เพราะตนเองไม่เคยเห็น
“ระหว่างหาเสียง ผมก็ได้เตือนประชาชนตลอดว่าเงิน 500 บาทกินไม่กี่วันก็หมดแล้ว ขอให้คิดกันให้เป็น แต่ผลออกมาพี่น้องประชาชนก็เลือกสิ่งที่ใกล้มือ ดังนั้นสองพรรคจะปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าไม่มีการซื้อเสียง เพราะผมมีหลักฐานอยู่”
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นบทเรียนให้พรรคประชาธิปัตย์ได้คิดว่าหากยังไม่คิดถึงอนาคตอยู่ร่วมรัฐบาลต่อไปจะหมดอนาคตในการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่มีที่ยืน ถึงขั้นอาจแพ้พรรคเสรีรวมไทย ดังนั้นควรใคร่คิดให้ดี เพราะเร็วๆ นี้จะมีการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดชุมพรและสงขลา ก็จะออกมาในรูปแบบเดียวกันอีก พรรคพลังประชารัฐก็จะสู้เต็มที่โดยไม่สนใจมารยาททางการเมือง แล้วพรรคประชาธิปัตย์จะสู้เขาได้หรือ สุดท้ายประชาธิปัตย์จะถูกพลังประชารัฐยึดไปทุกเขต
“ขอฝากไปยังพรรคประชาธิปัตย์ คุณยังจะยอมเป็นเบี้ยให้เขาย่ำยีอยู่อีกหรอ ควรจะคิดถึงอนาคตของคนของคุณ หากผมเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผมจะลาออกจากรัฐบาล เพื่อให้ประยุทธ์ยุบสภาจัดการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจะทำให้ประชาธิปัตย์สามารถรักษาเก้าอี้ชุมพรและสงขลาไปได้ ผมจึงขอฝากไว้ในฐานะที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคเก่าแก่ แต่ถ้ายังคิดไม่เป็น ก็ช่วยไม่ได้ ที่เตือนนี่ผมมองว่าประชาธิปัตย์ยังเป็นแค่คนรับใช้เผด็จการ ไม่ได้เป็นเผด็จการเอง ยังพอพูดคุยกับพรรคเสรีรวมไทยได้ แต่ถ้าเป็นเผด็จการตัวจริงผมไม่คุยด้วย”
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรี เพราะถือว่าเพราะถือว่าเป็นอำนาจนายกฯ โดยตรง
สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่รอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ศาลไม่ควรเข้ามาก้าวล่วงอำนาจของรัฐสภา เพราะว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาที่จะดำเนินการอยู่แล้ว ทั้งนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านจะนัดประชุมกันวันศุกร์นี้ เพื่อเตรียมรองรับการแก้ไขปัญหา หากศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าไม่สามารถแก้ไขทั้งฉบับได้ ส่วนตัวมองว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ต้องได้รับการแก้ไข เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่เอาเปรียบกันมากที่สุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 มี.ค. 64)
Tags: ซื้อสิทธิขายเสียง, พรรคประชาธิปัตย์, พรรคพลังประชารัฐ, พรรคเสรีรวมไทย, เลือกตั้งซ่อม, เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส