นายณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม (ITEL) เปิดเผยว่า ในปี 64 บริษัทเชื่อว่าผลงานจะทำนิวไฮ พร้อมรุกตลาดเต็มรูปแบบทั้งภาครัฐและเอกชน โดยนับจากนี้จะเห็นแผนกลยุทธ์ของอินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม แบบ “Growth Strategy” เพื่อเดินหน้าสู่ยุค New Normal พร้อมรุก New S-Curve ที่เป็นการให้บริการด้าน Internet of Things และ Big Data
การสร้างความแตกต่างที่เหนือกว่าคู่แข่งขันด้วยการให้บริการผ่านโครงข่ายใยแก้วนำแสงทั้งเส้นทาง (End to End Fiber Optic) การวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าบนโลกดิจิทัลอยู่เสมอเพื่อให้บริการตามความต้องการของผู้ใช้บริการ (Customization) และ การสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจด้วยการดูแลหลังการขายโดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ 100% ซึ่งจะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานและสามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจได้
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 63 เป็นเครื่องยืนยันแล้วว่า จากนี้ไปอีก 3 ปี จะเป็นก้าวที่ดีของ ITEL ด้วยมูลค่างานในมือที่เพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูง และจะทยอยรับรู้เป็นรายได้เข้ามาตามความสำเร็จของงาน โดยจะเห็นสัญญาณที่ดีตั้งแต่ไตรมาส 1/64 นี้ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และแผนการเข้าเสนองานใหม่อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากกลุ่มลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรมให้ความเชื่อมั่น ITEL ดูแลงานโครงการขนาดใหญ่มาแล้วจำนวนมาก ช่วยหนุนให้รายได้ของบริษัทฯ ให้เติบโตแข็งแกร่งและยั่งยืน
นายณัฐนัย กล่าวว่า ในปี 64 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% หรือที่ 2,800 ล้านบาท เนื่องจากปี 63 บริษัทมีรายได้รวม 2,058.89 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิจากการดำเนินงานอยู่ที่ 183.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.51% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 181.00 ล้านบาท มาจาก 3 ธุรกิจหลัก ประกอบด้วย การให้บริการโครงข่ายหรือดาต้า เซอร์วิส เติบโตต่อปี 20-30% ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ 60-70% ของรายได้รวม การให้บริการติดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคม สัดส่วน 20-30% และ บริการดาต้า เซ็นเตอร์ ปัจจุบันมีอยู่ 2 แห่ง แห่งแรกให้บริการครบ 100% ส่วนแห่งที่ 2 คาดภายในสิ้นปี 64 จะมีผู้ใช้บริการ 50-60% คาดการณ์ภาพรวมตลาดโทรคมนาคมในปี 64 ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง มองเทรนด์การลงทุนเกี่ยวกับการสื่อสารในยุคดิจิทัลยังมาแรง ส่งผลบวกต่อ ITEL หนุนรายได้ให้เติบโตแข็งแกร่งในอนาคตมากยิ่งขึ้น
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 64 ธุรกิจ Data Service ของบริษัทฯ มีแนวโน้มที่ดีจากความครอบคลุมของโครงข่ายถึง 75 จังหวัด ทำให้โครงข่ายมีเสถียรภาพมากขึ้น สร้างความพึงพอใจและเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ประกอบกับการที่บริษัทฯ สามารถพิสูจน์ตนเองจนสร้างความน่าเชื่อถือกับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ได้ ทำให้บริษัทฯ มีความได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้น ดังนั้นรายได้จะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากปริมาณการใช้งานของลูกค้าเช่าวงจร รวมถึงมีจุดแข็งในประสิทธิภาพและเสถียรภาพของโครงข่ายที่ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าและพันธมิตร มีบริการที่หลากหลายทำให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้า ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการบริการหลังการขายที่ครบวงจร โดยปี 64 บริษัทฯ ประเมินว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานยังมีสัญญาณที่ดี เพราะยังมีงานที่รอรับรู้รายได้อีกหลายโครงการที่คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปีนี้ เพื่อช่วยหนุนผลงานของบริษัทให้เติบโตอย่างมั่นคง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (9 มี.ค. 64)
Tags: Big Data, Data Service, Internet of Things, ITEL, ณัฐนัย อนันตรัมพร, หุ้นไทย, อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม