นางมาริส เพน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของออสเตรเลียแถลงว่า ขณะนี้ออสเตรเลียได้ตัดสินใจระงับความร่วมมือทางการทหารกับเมียนมาแล้ว เนื่องจากกองทัพเมียนมาใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วงอย่างรุนแรงมากขึ้น ขณะที่ประชาชนชาวเมียนมาจำนวนมากยังคงเดินหน้าชุมนุมประท้วงเพื่อต่อต้านการก่อรัฐประหารของกองทัพเมียนมาเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา
นางเพนยังระบุด้วยว่า ออสเตรเลียจะหันไปให้การช่วยเหลือด้านมนุษยชนโดยเร่งด่วนกับชาวโรฮิงญาและกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ
“เราจะให้ความสำคัญกับความจำเป็นด้านมนุษยชนที่มีความเร่งด่วน รวมไปถึงความจำเป็นอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น และจะตรวจสอบให้มั่นใจได้ว่า การช่วยเหลือด้านมนุษยชนทั้งหมดของออสเตรเลียนั้นเป็นการทำงานร่วมกับหรือผ่านองค์กรอิสระ ไม่ใช่กับรัฐบาลเมียนมาหรือองค์กรที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาล”
นางเพนกล่าว
ความร่วมมือทางการทหารที่ออสเตรเลียมีร่วมกับเมียนมานั้น จำกัดอยู่เพียงด้านที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสู้รบ เช่น โครงการฝึกอบรมภาษาอังกฤษให้เจ้าหน้าที่ทหาร
ทั้งนี้ รัฐบาลออสเตรเลียยังคงเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนายชอน เทอร์เนลล์ นักเศรษฐศาสตร์ผู้เป็นที่ปรึกษาของนางออง ซาน ซูจี ผู้นำพลเรือนของเมียนมา โดยนายเทอร์เนลล์นั้นได้ถูกควบคุมตัวและถูกจำกัดการติดต่อกับสถานกงสุลออสเตรเลียในเมียนมานับตั้งแต่ที่กองทัพเมียนมาเข้ายึดอำนาจบริหารจากรัฐบาลพลเรือนซึ่งชนะการเลือกตั้ง
“เราขอให้กองทัพเมียนมามีความอดทนอดกลั้น และหยุดใช้ความรุนแรงต่อประชาชน”
นางเพนกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (8 มี.ค. 64)
Tags: กองทัพเมียนมา, ความร่วมมือทางการทหาร, ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ, มาริส เพน, ออสเตรเลีย, เมียนมา