นางเจเน็ต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ (5 มี.ค.) ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวที่เพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า นักลงทุนในตลาดกำลังคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวแข็งแกร่งขึ้น ไม่ใช่วิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
นางเยลเลนกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ PBS Newshour ว่า “ดิฉันไม่คิดว่า ตลาดกำลังคาดการณ์ว่า เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในระยะยาวของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)”
นางเยลเลนกล่าวเสริมว่า เศรษฐกิจสหรัฐจำเป็นต้องมีการขยายตัวของการจ้างงานที่มากกว่าในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา แต่จะสามารถบรรลุเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มที่ได้ในปีหน้า โดยจะได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ที่เสนอโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 1 ปีที่ 1.626% หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 379,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่า อาจจะเพิ่มขึ้น 210,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 6.2% ในเดือนก.พ. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่า อาจจะทรงตัวที่ระดับ 6.3%
ทั้งนี้ สื่อต่างประเทศรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งเกินคาดนั้น เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวขึ้นแล้วจากผลกระทบของโรคโควิด-19
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (6 มี.ค. 64)
Tags: บอนด์ยีลด์, สหรัฐ, เงินเฟ้อ, เจเน็ต เยลเลน, เศรษฐกิจสหรัฐ