หุ้นไทยเช้านี้แนวโน้มลุ้นขึ้นในกรอบจำกัดหลัง Bond yield สหรัฐกลับมาสูงขึ้น

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีลุ้นขึ้นได้ในกรอบจำกัด เนื่องจากตลาดภูมิภาคเช้านี้แกว่งลบหลัง Bond yield สหรัฐฯปรับขึ้นสูงหลังตัวเลขเงินเฟ้อคาดการณ์สูงขึ้น ทำให้ไปกดดันตลาดอีกรอบ เล็งเผชิญแรงขายทำกำไรระหว่างทาง แต่แรงหนุนตลาดฯยังมาจากประเด็นการเปิดเมือง-มาตตรการต่าง ๆ อย่างวีซ่าพาสปอร์ต โดยวันนี้จะต้องติดตามผลการประชุมโอเปกพลัส และให้ติดตามการนำเสนอข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนที่ได้รายงานงบการเงินไปแล้ว โดยให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,535-1,550 จุด

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโอกาสปรับขึ้นได้ในกรอบจำกัด เนื่องจากตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนลบกัน หลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐฯได้ปรับตัวขึ้นสูงอีกหลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อคาดการณ์สูงขึ้น ทำให้ไปกดดันตลาดอีกรอบ ส่งผลให้ตลาดบ้านเรามีโอกาสที่จะเผชิญแรงขายทำกำไรได้ในระหว่างทางเช่นเดียวกับตลาดต่างประเทศ

ทั้งนี้ แรงซื้อที่เข้ามาที่หุ้นไทยวานนี้มาจากประเด็นการจะเปิดเมืองและมาตรการต่าง ๆ อย่างเรื่องของวีซ่าพาสปอร์ต ซึ่งหากออกมาจริงก็จะทำให้คนสามารถเดินทางได้เลยไม่ต้องรอนาน ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นมาได้ดีกว่าตลาดภูมิภาค เพราะก่อนหน้านี้มีการอั้นหุ้นบิ๊กแคปมาพักใหญ่ แต่พอมีแรงซื้อเข้ามาที่หุ้น CPALL ก็มีการเข้ามาซื้อหุ้นอื่นตาม

อย่างไรก็ดี วันนี้จะต้องติดตามผลการประชุมโอเปกพลัส เพราะจะมีผลต่อราคาน้ำมัน และให้ติดตามการนำเสนอข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนที่ได้รายงานงบฯไปแล้ว เพราะจะมีผลต่อราคาหุ้น

พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,535-1,550 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (3 มี.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 31,270.09 จุด ลดลง 121.43 จุด ( -0.39%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,819.72 จุด ลดลง 50.57 จุด (-1.31%) ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,997.75 จุด ลดลง 361.04 จุด หรือ -2.70%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 30.26 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 360.68 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 354.94 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (3 มี.ค.)1,543.40 จุด เพิ่มขึ้น 40.04 จุด (+2.66%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,799.19 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 64
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (3 มี.ค.) ปิดที่ 61.28 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.53 ดอลลาร์ หรือ 2.6%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (3 มี.ค.) อยู่ที่ 2.60 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 30.35 อ่อนค่าตามตลาดโลกหลังดอลล์แข็ง จับตาถ้อยแถลงประธานเฟดคืนนี้
  • “อาคม” เตรียมแก้พ.ร.ก.ซอฟท์โลน เพิ่มเพดานสินเชื่อ-ดอกเบี้ยจูงใจแบงก์ปล่อยกู้ พร้อมจัดตั้งโกดังเก็บหนี้อุ้มเอสเอ็มอี-ธุรกิจท่องเที่ยวให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน พร้อมทบทวนลดวันกักตัวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนกระตุ้นภาคท่องเที่ยวไม่ให้ฉุดรั้งเศรษฐกิจ มั่นใจจีดีพีปีนี้โต 2.5-3.5% ย้ำมาตรการดูแลเศรษฐกิจระยะสั้นยังจำเป็น ด้าน “กกร.” หนุนโครงการพักทรัพย์พักหนี้ ช่วยธุรกิจไทยรอดพ้นโควิด
  • รฟม.เปิดรับฟังความคิดเห็นร่าง TOR รถไฟฟ้าสายสีส้มฉบับใหม่หลังล้มประมูล ด้านซิโนไทยยิ้มพ้นคดีอาญาโรงไฟฟ้าขนอม เผยปีนี้ลงนามโครงการใหญ่แล้วกว่า 1 หมื่นล้าน ลุยร่วมประมูลรถไฟฟ้าสีส้ม-ม่วงใต้
  • กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในปี 63 ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 อย่างหนัก ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวโดยรวมลดลงมากถึง 2.18 ล้านล้านบาท หรือลดลงมากถึง 72.79% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่งผลให้รายได้ของธุรกิจท่องเที่ยวทั้งหมดปรับลดลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะธุรกิจที่พักมีรายได้ปรับลดลงมากที่สุด โดยลดลงจาก 7.71 แสนล้านบาทในปีก่อน เหลือเพียงแค่ 2.05 แสนล้านบาทเท่านั้น หรือลดลงมากถึง 5.66 แสนล้านบาท และในปีนี้ยังมีความท้าทายว่ารายได้จะกลับมาเป็นปกติได้หรือไม่ เพราะปัจจุบันการท่องเที่ยวยังไม่กลับมาฟื้นตัวได้เร็ว แม้ว่าหลายประเทศจะเริ่มฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม
  • นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาการบินไทยที่ปัจจุบันได้มีการยื่นแผนฟื้นฟูต่อศาลล้มละลายกลางในประเด็นที่กระทรวงการคลังต้องมีการเพิ่มทุนให้กับการบินไทยเพื่อให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ว่า กระทรวงการคลังพร้อมที่จะใช้สิทธิ์เพิ่มทุนตามสิทธิ์ที่มีอยู่โดยต้องไปดูแผนฟื้นฟูของการบินไทยประกอบด้วยแผนฟื้นฟูของการบินไทยที่ทำออกมาในขณะนี้ก็มีทั้งแผนของการลดต้นทุนและพัฒนาบุคลากร โดยในแผนลดต้นทุนมีการปรับลดจำนวนพนักงานลงกว่า 50% จาก 30,000 คน เหลือ 15,000 คน และการปรับปรุงเส้นทางการบินให้บินในเส้นทางที่ทำกำไรซึ่งถือว่าเป็นแผนที่ใช้ได้

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SINGER (กรุงศรี) “ซื้อ”เป้าสูงสุด IAA Consensus 40 บาท คาดกำไรสุทธิ เดินหน้าทำ All time high ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าโต พอร์ตสินเชื่อ C4C หนุนอีกทั้งการเปิดตัว โน๊ต อุดมแต้พาณิชย์ ช่วยสร้างภาพลักษณ์และหนุนยอดขาย
  • EA (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 66.00 บาท ตั้งเป้าส่งมอบรถเมล์ไฟฟ้าขนาดเล็กกับเอกชนกว่า 1 พันคันในปี 64 ส่วน ขสมก. รอการเปิดประมูลในเดือน เม.ย.-พ.ค. อีกกว่า 2.8 พันคัน ส่วนกรณีแท็กซี่ไฟฟ้าคาดการส่งมอบจะเลื่อนไปในช่วงปลายปี 64 โดยมีเป้าหมายในการส่งมอบรถกว่า 3,500 คัน พร้อมตั้งงบลงทุนปี 64 ที่ 6.1 พันลบ. ใช้ในการพัฒนาประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าเดิม, ขยายโรงงานแบตเตอรี่ และเพิ่มกำลังการผลิต EV-Car
  • AEONTS (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ”เป้า 288 บาท แนวโน้มกำไร Q4/63 (ม.ค.-มี.ค.64) ยังดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะโอกาสที่จะกลับรายการสำรอง ECL หลังจากตั้งเผื่อไปค่อนข้างมากในปีก่อน ขณะที่ Coverage Ratio อยู่ในระดับสูงกว่า 200% พร้อมคาดกำไรปี 64-65 +39% และ +14% จาก Loan Growth ที่จะฟื้นชัดใน Q2/64 สำรองและค่าใช้จ่ายที่ลดลง ราคาหุ้นยัง Laggard ตลาดและเทรด PE เพียง 11 เท่าต่ำกว่ากลุ่มฯมาก

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (4 มี.ค. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top