ตำรวจเมียนมายังคงใช้มาตรการที่รุนแรงจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านการก่อรัฐประหาร จนทำให้มีผู้เสียชีวิตทั่วประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเพิ่มเป็น 18 รายวานนี้ เท่ากับจำนวนผู้เสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แม้ว่าหลายฝ่ายออกมาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงต่อผู้ประท้วง
ผู้นำมวลชนของเมียนมากล่าวว่า ตำรวจได้สลายการชุมนุมด้วยการเดินเข้าหากลุ่มผู้ประท้วงพร้อมกับยิงแก๊สน้ำตา และขว้างระเบิดแสง รวมทั้งยิงด้วยกระสุนจริง โดยไม่มีการฉีดน้ำแรงดันสูง และไม่มีการเตือนให้เลิกชุมนุม
ขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมประท้วงต่อต้านการทำรัฐประหารในเมียนมามากกว่า 30 ราย นับตั้งแต่กองทัพเข้ายึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 ก.พ.
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ทรงมีพระราชดำรัสเรียกร้องให้กองทัพเมียนมายุติการใช้ความรุนแรงต่อประชาชน และให้มีการปล่อยตัวนักโทษการเมือง
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสยังเรียกร้องให้มีการเจรจาในเมียนมาเพื่อยุติความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสตรัสว่า เยาวชนในเมียนมาไม่ควรจะเผชิญกับอนาคตที่มีแต่ความเกลียดชัง แต่ควรมีการสมานฉันท์
ก่อนหน้านี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเคยเสด็จเยือนเมียนมาในปี 2560
ทางด้านรัฐมนตรีต่างประเทศของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ได้จัดการประชุมวานนี้ โดยที่ประชุมได้เรียกร้องให้ยุติความรุนแรงในเมียนมา และจัดการเจรจาเพื่อแก้ไขวิกฤตการทางการเมือง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 มี.ค. 64)
Tags: กลุ่มผู้ชุมนุม, กลุ่มผู้ประท้วง, นักโทษการเมือง, รัฐประหาร, สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส, อาเซียน, เมียนมา