นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สกาย ไอซีที (SKY) กล่าวถึงทิศทางผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2564 นั้นคาดว่าจะเติบโตในระดับ 30% และปี 2565 รายได้ของบริษัทคาดว่าจะกลับมาเติบโตแบบก้าวกระโดดอีกครั้ง จากภาวะเศรษฐกิจที่คาดว่าจะกลับมาขยายตัวในระดับดีขึ้น โดยเฉพาะการเปิดประเทศจากสถานการณ์โควิด-19 ที่มีทิศทางที่ดีขึ้น นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาเดินทาง ธุรกิจสนามบินได้ประโยชน์โดยตรง
โดยในปี 2564 บริษัทจะมุ่งขยายตลาดไปสู่กลุ่มลูกค้าภาคเอกชน (B2B) พร้อม ๆ กับการพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ ด้วยการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาเสริมให้การทำงานของโซลูชั่น “Smart Security Platform” มีความอัจฉริยะและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งในไตรมาส 2/2564 นี้ บริษัทเตรียมที่จะเปิดตัวให้บริการโซลูชั่นใหม่ “Smart Security Platform” กับกลุ่มลูกค้าภาคเอกชน
รวมไปถึงการร่วมมือกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยีและบริษัท AI ชั้นแนวหน้าของโลกเพื่อพัฒนาโซลูชั่นใหม่ ๆ ให้เข้าถึงทุก Business Sector เพื่อที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตคนให้มีความสะดวกสบายขึ้นไม่ว่าจะเป็น Real Estate, Education, Retail & Commercial sector และการเข้าประมูลงานโครงการขนาดใหญ่ทั้งในส่วนงานภาครัฐ และงานภาคเอกชนที่ปีนี้คาดว่าจะขยายและเพิ่มสัดส่วนรายได้มากขึ้น
ขณะที่ผลประกอบการปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม 3,542.22 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 157.59 ล้านบาท โดยในปี 2563 บริษัทได้มีการทยอยส่งมอบและรับรู้รายได้และกำไรท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างมาก ทำให้เกิดการชะลอตัวของรายได้และกำไรในปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามบริษัทมีความเชื่อมั่นในแผนระยะยาว โดยเฉพาะในการเข้าลงทุนในบริษัท เอสเอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (SAL) ในสัดส่วน 46.80% มูลค่ารวม 212,116,284 บาท เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจการบริการภาคพื้นดินในสนามบินซึ่งเป็นการบริการที่มีความยั่งยืนในอนาคต
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (1 มี.ค. 64)
Tags: SKY, สกาย ไอซีที, สิทธิเดช มัยลาภ, หุ้นไทย