นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไพโอเนียร์ มอเตอร์ (PIMO) เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปี 64 จะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1,000 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 20-25% จากปีก่อนที่มีรายได้ 795.76 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากตลาดต่างประเทศที่มีคำสั่งซื้อเข้ามาค่อนข้างมาก โดยบริษัทคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 49% จากปีก่อนอยู่ที่ 15% ซึ่งบริษัทได้ขยายกำลังการผลิตมอเตอร์สระว่ายน้ำขนิดใหม่มารองรับเป็น 120 ลูก/วัน จาก 50-70 ลูก/วัน
โดยเฉพาะตลาดประเทศสหรัฐที่ได้ประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากได้ประกาศห้ามจำหน่ายมอเตอร์ความเร็ว 1 รอบ single speed motor (AC) ที่ใช้กับสระว่ายน้ำ โดยจะต้องใช้มอเตอร์ความเร็วปรับรอบได้ variable speed motor (DC) หรือมอเตอร์ชนิดพิเศษ คือ BLDC ตั้งแต่ในวันที่ 18 ก.ค.64 ซึ่งบริษัทมีนวัตกรรมผลิตมอเตอร์ BLDC ที่สามารถประหยัดพลังงานได้มากตามนโยบายของรัฐบาลสหรัฐหลังจากได้ซื้อสิทธิบัตรการผลิตมอเตอร์ BLDC ที่ยังมีอายุเหลืออีก 14 ปีเข้ามา ขณะที่สระว่ายน้ำส่วนตัวในสหรัฐมีอยู่ราว 10 ล้านแห่ง และที่สำคัญคู่แข่งหายไปจากตลาดมาก จากที่เคยมี 40-50 ราย เหลือเพียง 3 ราย
ในส่วนตลาดในประเทศไทย คาดว่าจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายไปในทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้น โดยในปีนี้แม้ว่าภาพรวมผลประกอบการจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง บริษัทก็ยังคงเน้นการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ
“เรายังคงเน้นการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะเห็นตั้งแต่ปีที่ผ่านมาสัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขายลดลง ซึ่งเราคาดหวังว่าจะทำได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของมอเตอร์สำหรับรถไฟฟ้า (EV) มีความสนใจที่จะทำ แต่ก็ต้องดูว่าภาครัฐจะมีการสนับสนุนอย่างไรบ้างเพื่อที่จะให้สามารถแข่งขันได้ ซึ่งหากไม่มีการสนับสนุนจากภาครัฐความสามารถในการแข่งขันคงเป็นไปได้ยาก ปัจจุบันบริษัทก็ได้ศึกษาและหาพันธมิตรเพื่อที่จะเข้ามาพัฒนาร่วมกัน”นายวสันต์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มี.ค. 64)
Tags: PIMO, วสันต์ อิทธิโรจนกุล, ไพโอเนียร์ มอเตอร์