สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (24 ก.พ.) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐได้มีการยกเลิกคำสั่งพิเศษของอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ที่ระงับการขออพยพถิ่นฐานเข้าสู่สหรัฐสำหรับสมาชิกครอบครัวของพลเมืองสหรัฐ, ผู้มีถิ่นพำนักถาวร รวมไปถึงผู้ที่ได้รับเลือกตามโครงการล็อตเตอรีวีซ่าด้วย
ในปี 2563 อดีตปธน.ทรัมป์ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับคำสั่งดังกล่าวว่า “การรับแรงงานเข้าประเทศผ่านวีซ่าประเภทอื่นๆ ที่ไม่ใช่เพื่อการขออพยพถิ่นฐานเข้าสู่สหรัฐนั้น ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่แรงงานชาวอเมริกันจะสูญเสียตำแหน่งงาน และเสียโอกาสในช่วงที่เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวหลังผ่านพ้นวิกฤตโรคโควิด-19”
อย่างไรก็ดี ปธน.ไบเดนระบุว่า คำสั่งของอดีตปธน.ทรัมป์ที่ระงับการขอพำนักในสหรัฐอย่างถาวรหรือการขอกรีนการ์ด รวมไปถึงวีซ่าทำงานของแรงงานต่างชาติชั่วคราวนั้น ไม่ได้เป็นผลดีต่อสหรัฐ
“ความจริงกลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม การออกคำสั่งเช่นนั้น รวมถึงการขัดขวางไม่ให้สมาชิกครอบครัวของพลเมืองและผู้มีถิ่นพำนักถาวรในสหรัฐอพยพถิ่นฐานมาอยู่กับครอบครัว ทำให้สหรัฐเสียผลประโยชน์ และยังทำให้ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ในสหรัฐที่มีความจำเป็นต้องใช้ทักษะแรงงานจากทั่วโลกนั้นเกิดความเสียหาย นอกจากนี้ คำสั่งดังกล่าวยังทำให้ผู้ที่ได้รับเลือกให้ยื่นขอวีซ่าเพื่ออพยพเข้าสู่สหรัฐตามโครงการล็อตเตอรีวีซ่าในปี 2563 รวมไปถึงผู้ที่ได้รับวีซ่าดังกล่าวแล้วนั้น ต้องเสียโอกาสไปอีกด้วย” ปธน.ไบเดนกล่าว
ก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐภายใต้การบริหารของอดีตปธน.ทรัมป์ได้เลื่อนกำหนดหมดอายุของคำสั่งพิเศษนี้ออกไปถึง 2 ครั้ง โดยให้เหตุผลว่าคำสั่งดังกล่าวมีขึ้นเพื่อปกป้องแรงงานชาวอเมริกันและตลาดแรงงานของสหรัฐในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 โดยคำสั่งดังกล่าวมีกำหนดหมดอายุลงในวันที่ 31 มี.ค.นี้