บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2564 ได้มีมติเอกฉันท์อนุมัติให้บริษัท เอจีอี เทอร์มินอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ในสิทธิการเช่าศูนย์ธุรกิจการเกษตรของชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากบริษัท สุวรรณเกลียวทอง จำกัด ประกอบด้วย 1. ท่าเทียบเรือ 2. คลังสินค้า 3. อาคารสำนักงาน 4. อาคารด่านชั่งน้าหนักและเครื่องชั่งน้าหนักอิเล็กทรอนิกส์ และ 5. สิ่งปลูกสร้างอื่นๆ
นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร AGE เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้บริษัทย่อย เข้าซื้อสิทธิการเช่ากิจการท่าเรือ 3 ท่า และโกดังสินค้า 5 หลัง บนพื้นที่ทั้งหมด 31 ไร่ ที่อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีมูลค่าการลงทุน 90 ล้านบาท ซึ่งการเข้าลงทุนซื้อสิทธิการเช่ากิจการในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจให้มีความครบวงจรในการให้บริการด้านธุรกิจโลจิสติกส์ของบริษัทย่อย ให้มีความแข็งแกร่ง และสามารถรองรับความต้องการด้านการขนส่งในทุกมิติให้กับกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ทั้งนี้หลังจากดีลการซื้อสิทธิการเช่าท่าเรือแล้วเสร็จ ส่งผลให้ AGE มีท่าเรือเพิ่มเป็น 6 ท่า จากปัจจุบันมีท่าเรืออยู่แล้ว 3 ท่า
“จากแผนการลงทุนแบบเชิงรุกในครั้งนี้จะทำให้ธุรกิจโลจิสติกส์ของบริษัทฯในปีนี้ สามารถรองรับปริมาณการขนส่งผ่านท่าเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 7 ล้านตันต่อปี จากปัจจุบันที่มีการขนส่งผ่านท่าอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านตันต่อปี ซึ่งจะสามารถขยายฐานกลุ่มลูกค้าด้านการขนส่งสินค้าได้เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประเภทสินค้าเกษตร ปูนซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง ปุ๋ย และแร่เหล็กเป็นต้น”
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการยังได้มีมติอนุมัติการลงทุนการเข้าซื้อรถบรรทุกเพิ่มอีก จำนวน 50 คัน มูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท จากการขยายแผนธุรกิจโลจิสติกส์ในเชิงรุก ทำให้ในปี 2564 บริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้จากธุรกิจโลจิสติกส์จากบริษัทในเครือ และกลุ่มลูกค้าภายนอก อยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ บจก.เอจีอี เทอร์มินอล และ บจก.สุวรรณเกลียวทอง จะร่วมทุนกันจัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่เพื่อเข้าทำสัญญาเช่าศูนย์ธุรกิจการเกษตรกับชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด แทน บจก. สุวรรณเกลียวทอง โดยมีระยะเวลาการเช่า 3 ปี และดำเนินการต่ออายุการเช่าออกไปอีก 3 ปี
นอกเหนือจากสิทธิการเช่ากับชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด บจก. สุวรรณเกลียวทองจะโอนสิทธิในสัญญาเช่า และ/หรือสัญญาบริการพื้นที่โกดังเก็บสินค้า และ/หรือสัญญาบริการผ่านท่าเทียบเรือ รวมถึงสัญญาใดๆ ที่มีอยู่ลูกค้าที่มาใช้บริการศูนย์ธุรกิจการเกษตรดังกล่าวให้กับบริษัทร่วมทุน โดยบจก. สุวรรณเกลียวทองจะได้รับค่าตอบแทนสำหรับการโอนสิทธิการเช่าศูนย์ธุรกิจการเกษตรและสัญญาต่างๆ ดังกล่าวให้แก่บริษัทร่วมทุนที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 85,000,000 บาท และคาดว่าจะดำเนินการโอนสินทรัพย์และการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ปี 2564
บริษัทร่วมทุนใหม่ชื่อ บริษัท เอจีอี พอร์ตเซอร์วิส จำกัด โดยบจก.เอจีอี เทอร์มินอล ถือหุ้น 75% และบจก. สุวรรณเกลียวทอง ถือหุ้น 25% ของทุนจดทะเบียน 90 ล้านบาท่ หุ้นสามัญ 900,000 หุ้นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทร่วมทุนดังกล่าวประกอบธุรกิจกิจการท่าเรือขนถ่าย/ผ่านท่า บริการเก็บและให้เช่าคลังสินค้าประเภทต่างๆ ได้ตามกฎหมาย อันได้แก่ (แต่ไม่จำกัดเพียง) ปูนเม็ด ปุ๋ย แร่ทองแดง มันเส้น มันอัดเม็ด แร่หิน ถ่านหิน กากถั่ว ข้าวบาเล่ย์ ข้าวสาลี แร่ยิปซั่มและแร่เหล็ก เป็นต้น
นายพนมกล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 7,897 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่าน ซึ่งเป็นรายได้จากการขายถ่านหินที่ 7,549 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.1% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ในงวดปี 2563 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 225 ล้านบาท
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากปริมาณการขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้น โดยมียอดขายถ่านหินทั้งในประเทศ และต่างประเทศแตะระดับ 4.4 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 56.4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และปริมาณการจำหน่ายถ่านหินรวมทะลุเป้าทั้งปีที่วางไว้ 4 ล้านตัน รวมทั้งมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจโลจิสติกส์เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งได้เป็นอย่างดี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.พ. 64)
Tags: AGE, พนม ควรสถาพร, หุ้นไทย, เอจีอี เทอร์มินอล, เอเชีย กรีน เอนเนอจี, โลจิสติกส์