นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ส่งผลให้ทุกสายการบิน รวมถึงการบินไทยไม่สามารถทำการบินได้ตามปกติ อีกทั้งธุรกิจการบินทั่วโลกเผชิญอยู่กับวิกฤตการหดตัวอย่างรุนแรง จากข้อจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ ส่งผลให้กระแสเงินสดของบริษัทฯ ลดลงอย่างต่อเนื่อง จนไม่เพียงพอที่บริษัทฯ จะกลับมาเริ่มทำการบินได้
แม้ว่าบริษัทฯ ได้ใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถในการหารายได้จากหลายๆ ทาง เช่น การจัดให้มีเที่ยวบินรับคนไทยกลับบ้าน เที่ยวบินขนส่งสินค้า และการหารายได้เสริมจากหน่วยธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจการบิน (Non-Air) อาทิ รายได้จากธุรกิจภัตตาคารของฝ่ายครัวการบิน การให้บริการสายการบินลูกค้าของฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้นและฝ่ายบริการอุปกรณ์ภาคพื้น ฝ่ายช่าง รวมทั้งรายได้จากการขายสินค้าใน Thai Shop และทัวร์เอื้องหลวงของสายการพาณิชย์ เป็นต้น
ด้วยเหตุที่กล่าวมา บริษัทฯ จึงได้ยื่นคำร้องขออนุญาตขายทรัพย์สินบางรายการที่ไม่ได้เป็นทรัพย์สินหลักที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจการบินของลูกหนี้ หรือเป็นทรัพย์สินที่ไม่ได้ใช้ หรือหากเก็บไว้มีแต่จะเสื่อมค่าเสื่อมราคาลง ตลอดจนก่อให้เกิดภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาที่เพิ่มขึ้นจำนวน 4 รายการ ได้แก่ 1. หุ้นสายการบินนกแอร์ (NOK) 2. หุ้นบมจ. บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) 3. เครื่องยนต์ของเครื่องบินโบอิ้ง 737-400 ที่ไม่ได้ใช้งาน (จำนวน 5 เครื่องยนต์) และ 4. อาคารศูนย์ฝึกอบรมหลักสี่ ซึ่งศาลล้มละลายกลางได้ไต่สวนและมีคำสั่งอนุญาตให้ขายทรัพย์สิน ภายใต้การกำกับดูแลของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายชาญศิล์ กล่าวว่า บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องประกาศขายอาคารศูนย์ฝึกอบรม หลักสี่ กรุงเทพมหานคร เนื่องจากในการทำการบินในแต่ละเที่ยวบินนั้น บริษัทฯ จำเป็นต้องมีเงินจำนวนหนึ่ง พร้อมไว้เพื่อชำระให้แก่ผู้ขายสินค้าหรือให้บริการ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการทำการบินในเที่ยวบินนั้น ๆ เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 คลี่คลายลง และข้อจำกัดด้านการเปิดน่านฟ้าของประเทศไทยและต่างประเทศเอื้ออำนวยจนมีการอนุญาตให้ทำการบิน
ทั้งนี้ หากบริษัทฯ ไม่สามารถกลับมาทำการบินได้ นอกจากบริษัทฯ จะเสียโอกาสในการสร้างรายได้จากธุรกิจการบิน ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่บริษัทฯ มีความเข้มแข็งอยู่แล้ว ยังอาจเสียสิทธิการบินและตารางการบิน (Flight Slot) ในประเทศต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในทรัพย์สินที่ประเมินมูลค่าไม่ได้อันเป็นสาระสำคัญของการประกอบกิจการของบริษัทฯ หากปล่อยให้เกิดความเสียหายดังกล่าวนี้ จะทำให้บริษัทฯ สูญเสียศักยภาพในการแข่งขันไปอย่างถาวร และมีผลกระทบต่อโอกาสในการฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ อย่างแน่นอน ซึ่งความเสียหายดังกล่าวหากปล่อยให้เกิดขึ้นแล้ว ย่อมยากที่จะเยียวยาได้ ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการขายทรัพย์สินดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในการดำเนินธุรกิจการบิน เพื่อต่อยอดและสร้างรายได้ให้แก่บริษัทฯ หรือนำไปใช้ในการดำเนินธุรกิจภายใต้ขอบเขตที่สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมายต่อไป
สำหรับอาคารสำนักงานศูนย์ฝึกอบรมบริเวณหลักสี่ เป็นทรัพย์สินรายการหนึ่งที่ได้ขายตามคำสั่งอนุญาตของศาลล้มละลายในคดีฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ โดยจะดำเนินการขายด้วยวิธียื่นซองเสนอราคา ซึ่งบริษัทฯ เสนอขายที่ดินและอาคารศูนย์ฝึกอบรมหลักสี่ แบบไม่รวมสิ่งที่ไม่ใช่ส่วนควบของที่ดินและอาคาร และไม่รวมสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ของบริษัทฯ ที่อยู่ในบริเวณอาคาร โดยเสนอขายในลักษณะและสภาพปัจจุบัน (“as is-where is”) กล่าวคือ ผู้เสนอราคาจะต้องไม่เรียกร้องให้บริษัทฯ ก่อสร้าง ดัดแปลง หรือรื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้างใดบนที่ดินและศูนย์ฝึกอบรมหลักสี่ ทั้งนี้ อาคารศูนย์ฝึกอบรมหลักสี่ ตั้งอยู่ที่เลขที่ 425 ตำบลตลาดบางเขน (ดอนเมือง) อำเภอบางเขน จังหวัดกรุงเทพมหานคร รวมเนื้อที่ทั้งหมด 19 ไร่ 3 งาน 26 ตารางวา หรือ 7,926 ตารางวา โดยบริษัทฯ จะจัดให้มีการยื่นซองเสนอราคา ในวันที่ 1 เมษายน 2564 เวลา 9.00 – 16.00 น. ณ ศูนย์บริการงานจัดซื้อ อาคาร 3 ชั้น 1 สำนักงานใหญ่ การบินไทย และจะประกาศผลการคัดเลือกให้ทราบในวันที่ 16 เมษายน 2564 ต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.พ. 64)
Tags: BAFS, NOK, THAI, การบินไทย, ขายหุ้น, ชาญศิลป์ ตรีนุชกร, สายการบิน