นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศคู่ค้าที่สำคัญหันมาใช้มาตรการทางการค้าเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนมากขึ้น อย่างเช่นสหรัฐฯ นำมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping: AD) มาใช้กับสินค้ายางรถยนต์กับหลายประเทศรวมทั้งไทยด้วย
ขณะที่ประเทศคู่ค้าในประเทศอาเซียน อาทิ เวียดนามนำมาตรการ AD และมาตรการตอบโต้การอุดหนุน (Countervailing Duty: CVD) มาใช้กับสินค้าน้ำตาลที่นำเข้าจากหลายประเทศรวมทั้งไทย และฟิลิปปินส์นำมาตรการปกป้องการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น (Safeguard Measure: SG) มาใช้กับสินค้ารถยนต์ที่นำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลก
ประกอบกับเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงขาลงเพราะทุกประเทศทั่วโลกได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ดังนั้นกระทรวงฯ จึงดำเนินมาตรการเชิงรุก โดยวางกลยุทธ์แก้ต่างให้กับสินค้าส่งออกไทยเพื่อสร้างความเป็นธรรม และสร้างแต้มต่อให้ผู้ประกอบการไทยในเวทีโลก
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงฯ ไม่เคยนิ่งนอนใจเมื่อรัฐบาลต่างประเทศเปิดไต่สวน เพื่อกำหนดมาตรการ ซึ่งกระทรวงฯ ทำหน้าที่เป็นหัวหอกในการแก้ต่างกรณีถูกไต่สวน AD CVD และ SG และเป็นพี่เลี้ยงเพื่อให้คำแนะนำแก่ภาคเอกชนในการแก้ต่างตามข้อกล่าวหาตามมาตรการต่างๆ รวมถึงการท้วงติงเพื่อรักษาสิทธิให้แก่ภาคเอกชนที่จะต้องได้รับความเป็นธรรมและความโปร่งใสระหว่างกระบวนการไต่สวนจากรัฐบาลต่างประเทศตามมาตรฐานสากล
กรณีการไต่สวน AD สินค้ายางรถยนต์ของสหรัฐฯ ซึ่งได้กล่าวหาไทยว่ามีอัตราการทุ่มตลาดในสินค้าดังกล่าวอยู่ที่ 106.4-217.5% กระทรวงฯ ได้จัดประชุมหารือกรณีดังกล่าวร่วมกับตัวแทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน และกลุ่มสมาคมที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาแนวทางแก้ต่าง และได้จัดให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการไทยเกี่ยวกับมาตรการ AD และกระบวนการไต่สวนฯ ของสหรัฐฯ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการในการดำเนินการแก้ต่างต่อไป
นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ได้มีหนังสือถึงหน่วยงานไต่สวนของสหรัฐฯ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและให้ความเห็นในการแก้ต่างให้กับผู้ประกอบการยางรถยนต์ไทยต่อกรณีดังกล่าว ซึ่งจากการดำเนินการที่ผ่านมาทำให้ผลการพิจารณา AD เบื้องต้นของสหรัฐฯ พบว่าผู้ส่งออกสินค้ายางรถยนต์ของไทยมีอัตราอากร AD ต่ำกว่าประเทศคู่แข่งคือ อยู่ที่ 13.25-22.21%
สำหรับรายการสินค้าอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างกระบวนการไต่สวน เช่น สินค้าน้ำตาลที่เวียดนามไต่สวน AD และ CVD และสินค้ายานยนต์ที่ฟิลิปปินส์ไต่สวน SG กระทรวงฯ ได้ดำเนินการแก้ต่าง โดยการแสดงข้อโต้แย้งและชี้ให้เห็นถึงความไม่เหมาะสมและชอบธรรมต่อการกำหนดมาตรการโดยรัฐบาลประเทศผู้ฟ้อง หรือการตอบแบบสอบถามเพื่อชี้แจงข้อมูล/ข้อเท็จจริงว่าไทยไม่ได้มีพฤติกรรมการตามที่ถูกกล่าวหา
นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังได้มีการทำงานอย่างใกล้ชิดกับภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดกลยุทธ์การต่อสู้ที่เหมาะสมในแต่ละกรณี รวมทั้งจะติดตามความคืบหน้าของการใช้มาตรการดังกล่าวของประเทศคู่ค้าอย่างใกล้ชิด และแจ้งผลให้กับผู้มีส่วนได้เสียทราบเพื่อเตรียมความพร้อมในการส่งออก และเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันมูลค่าทางการค้าของไทยในเวทีโลกต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.พ. 64)
Tags: WTO, กรมการค้าต่างประเทศ, กระทรวงพาณิชย์, การค้าการลงทุน, กีรติ รัชโน, จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์, ส่งออก, เศรษฐกิจโลก