นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส (BGC) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 64 เติบโต 35% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 10,968 ล้านบาท จากการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยวางงบลงทุนรวมปีนี้ไว้ราว 2,500 ล้านบาท แบ่งเป็น การลงทุนซื้อกิจการ (M&A) ในกิจการ 2 บริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท บีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (BGP) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายฟิล์มพลาสติก ฝาพลาสติก ขวด PET หลอดพรีฟอร์ม โดย BGC จะเข้าถือหุ้น 100% และบริษัท บางกอกบรรจุภัณฑ์ จำกัด (BVP) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์กระดาษ กำลังการผลิตประมาณ 5 หมื่นตันต่อปี
โดย BGC จะเข้าถือหุ้นทั้งหมด 100% เช่นกัน คาดใช้งบลงทุนรวมประมาณ 1,650 ล้านบาท โดยใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้ยืมสถาบันการเงินในประเทศและบริษัทฯ ยังคงรักษาอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ไม่เกิน 2.5 เท่า
ทั้งนี้การเข้าซื้อกิจการทั้ง 2 บริษัทดังกล่าว บริษัทฯ จะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ในวันที่ 9 เม.ย.นี้ก่อน ซึ่งเมื่อได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นแล้ว ก็จะสามารถดำเนินการลงทุนได้ทันที โดยมั่นใจว่าการลงทุนดังกล่าวจะเสริมสร้างศักยภาพธุรกิจและผลการดำเนินงานของ BGC ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เนื่องจากสามารถรับรู้รายได้และผลกำไรจากบริษัทฯ ที่เข้าลงทุน หลังเสร็จสิ้นกระบวนการเข้าควบรวมกิจการ
ประกอบกับบริษัทฯจะสามารถนำเสนอบริการแบบครบวงจร (One stop service) ตั้งแต่บรรจุภัณฑ์ พร้อมฉลาก ฝา และกล่องกระดาษ โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมด้านบรรจุภัณฑ์ มีเทคโนโลยีด้านการออกแบบที่ทันสมัย รวมถึงยังเพิ่มความสะดวกสบายแก่ลูกค้าจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย คาดว่าบริษัทฯ จะเริ่มรับรู้รายได้จากการลงทุนดังกล่าวตั้งแต่เดือนพ.ค.เป็นต้นไป
นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการนอกเครืออีก 1 บริษัท ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับกล่องกระดาษ กำลังการผลิตราว 1 แสนตันต่อปี คาดว่าจะสามารถปิดดีลได้ภายในไตรมาส 1/64 และคาดใช้เงินลงทุนในส่วนนี้ราว 900 ล้านบาทของงบลงทุนรวม
นายศิลปรัตน์ กล่าวว่า จากการขยายการลงทุนดังกล่าวจะช่วยเสริมศักยภาพการเป็น Total Packaging Solution ซึ่งจะส่งผลต่อโครงสร้างรายได้ในอนาคตเปลี่ยนแปลงไป โดยคาดว่าภายใน 5 ปีนับจากนี้ บริษัทฯ จะมีรายได้หลักจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์แก้วประมาณ 55% ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับบรรจุภัณฑ์แก้ว 40% และธุรกิจด้านพลังงาน 5% จากปัจจุบันที่มีรายได้หลักจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์แก้ว 95% และธุรกิจด้านพลังงาน 5%
ขณะที่ใน 5 ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกเพิ่มเป็น 15-20% จากปีนี้คาดจะกลับมาอยู่ที่ 12% ส่วนที่เหลือจะมาจากในประเทศเป็นหลัก โดยตั้งเป้าจะมีรายได้เติบโตอีกเท่าตัว หรือแตะ 25,000 ล้านบาทในปี 68
“บริษัทฯ ได้วางนโยบายยกระดับธุรกิจของ BGC จากผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้วสู่การเป็น Total Packaging Solution หรือผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในการดำเนินงานรองรับแผนผลักดันรายได้เติบโตเท่าตัว จาก 10,968 ล้านบาท เป็น 25,000 ล้านบาท ภายในปี 68 พร้อมทั้งปรับวิสัยทัศน์ขององค์กรเป็น Bringing Good Value to Everyone Everyday สื่อถึง BGC จะเป็นองค์กรที่ส่งคุณค่าสู่ทุกคน ในทุกวันด้วยบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ภายใต้พันธกิจที่จะส่งมอบคุณค่าสู่ทุกฝ่าย ได้แก่ ผู้ถือหุ้น ลูกค้า พนักงาน รวมถึงสังคมและโลกของเรา” นายศิลปรัตน์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.พ. 64)
Tags: BGC, บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส, ศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร