บมจ.ปตท. (PTT) คาดว่าในปี 64 ราคาน้ำมันดิบจะเฉลี่ยอยู่ที่ 55-60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และค่าการกลั่นอ้างอิงสิงคโปร์จะเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5-2.5 หรียญสหรัฐ/บาร์เรล
อนึ่ง ในปี 63 ราคานำมันดิบดูไบเฉลี่ยอยู่ที่ 42.2 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ตามรายงานของ IHS ณ เดือน ม.ค.64 ความต้องการใช้น้ำมันของโลกในปี 64 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไปอยู่ที่ระดับ 96.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังสถานการณ์โควิด-19 ค่อยๆ คลี่คลาย
สำหรับราคาน้ำมันในปี 64 คาดวาจะได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์น้ำมันโลกที่ทยอยปรับเพิ่มขึ้น ตลอดจนมาตรการควบคุมกำลังการผลิตของ OPEC+ โดยประเทศสมาชิกบรรลุข้อตกลงการลดกำลังการผลิตที่ระดับ 7.2, 7.125 และ 7.050 ล้านบาร์เรลต่อวันสำหรับเดือน ม.ค., ก.พ. และ มี.ค. ตามลำดับ อีกทั้ง ประเทศซาอุดิอาระเบียประกาศลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมในเดือน ก.พ.ถึง มี.ค.อีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในขณะที่แรงกดดันราคายังคงมีอยู่จากแหล่งผลิตนอก OPEC+ ที่อาจกลับมาผลิตหากราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น
ส่วนราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีทั้งสายโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเทียบกับปี 63 จากเศรษฐกิจโลกที่ทยอยฟื้นตัวและแนวโน้มการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ในหลายประเทศ ท่ามกลางการกระจายตัวของวัคซีนอย่างแพร่หลาย และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในหลายประเทศ
ราคาผลิตภัณฑ์กลุ่มโอเลฟินส์มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าราคา HDPE และ PP จะเฉลี่ยที่ระดับ 950-1,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน และ 1,100-1,150 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ตามลำดับ จากความต้องการซื้อสินค้าที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่ยังคงมีปัจจัยกดดันจากกำลังการผลิตที่ขึ้นใหม่ โดยเฉพาะในจีนและอาเซียน
ราคากลุ่มผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าราคา BZ และ PX เฉลี่ยทั้งปีที่ 650-700 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน และ 700-750 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ตามลำดับ จากความต้องการซื้อสินค้าที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีภาวะสินค้าล้นตลาด และอุปทานใหมที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยกดดันการเพิ่มขึ้นของราคา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.พ. 64)
Tags: PTT, ค่าการกลั่น, ปตท., ราคาน้ำมัน