พญ. อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจในวันนี้ได้หารือถึงนโยบายการกระจายของวัคซีนเพื่อดูแลโควิด-19 โดยมีเป้าหมายนโยบายสำคัญ คือ ทุกคนในประเทศไทยเข้าถึงวัคซีนที่มีคุณภาพและปลอดภัย และมีประสิทธิภาพป้องกันโควิด-19 ไม่เฉพาะคนไทย แต่รวมถึงต่างชาติ หรือแม้กระทั่งเพื่อนบ้านเข้ามาค้าขายแรงงานในประเทศด้วย
นอกจากนี้ ได้มีการทบทวนการจัดการด้วย เนื่องจากพอมีวัคซีนเข้ามาเป็นจำนวนมากแล้ว ต้องดูในเรื่องของการกระจาย บุคลากรที่จะให้บริการมีเพียงพอหรือไม่ เนื่องจากจะต้องทำให้เป็นมาตรฐานทั้งประเทศ
พญ. อภิสมัย กล่าวว่า การจัดสรรวัคซีนจะเริ่มตั้งแต่ล็อตแรกที่จะเข้ามาในวันที่ 24 ก.พ.ไปสู่กลุ่มเป้าหมาย จากนั้นจึงจะเริ่มทยอยนำเข้าและผลิตในประเทศ ส่วนภาคเอกชน โดยเฉพาะในภาคธุรกิจท่องเที่ยวบริการจะอยู่ในช่วงระยะที่ 2
สำหรับข้อสงสัยว่าภาคเอกชนจะสามารถจัดหาวัคซีนเองได้หารือไม่นั้น โดยหลักการทาง ศบค.เห็นด้วย แต่มีเงื่อนไขสำคัญประกอบด้วย เช่น ต้องเป็นสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เป็นลักษณะโรงพยาบาล มีแพทย์ และมีบริการรองรับภาวะฉุกเฉินได้ ยกตัวอย่าง การฉีดวัคซีนอาจทำให้เกิดการแพ้ ต้องมีการให้ความช่วยเหลือกู้ชีพที่มีมาตรฐาน นอกจากนี้ วัคซีนต้องมีที่มาที่ไป คือ ต้องได้รับการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก่อน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.พ. 64)
Tags: COVID-19, วัคซีน, ศบค., ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19, สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, อภิสมัย ศรีรังสรรค์, อย., โควิด-19, โรงพยาบาลเอกชน