น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/63 หดตัวที่ -4.2% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ทำให้ทั้งปี 63 เศรษฐกิจไทยหดตัว -6.1% ซึ่งเป็นการหดตัวสูงสุดในรอบสองทศวรรษ แต่ยังดีกว่าที่ ธปท.ประเมินไว้ทั้งในรายงานนโยบายการเงินเดือน ธ.ค.63 และในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในเดือน ก.พ. 64 ที่ผ่านมา
โดยองค์ประกอบที่ดีกว่าคาดว่ามาจากการสะสมสินค้าคงคลังที่เร่งขึ้นมากตามผลผลิตเกษตร และเพื่อรองรับคำสั่งซื้อจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น และการบริโภคภาคเอกชนสามารถกลับมาขยายตัวได้เล็กน้อย เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการส่งออกสินค้าที่ปรับดีขึ้นตามเศรษฐกิจคู่ค้าและวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ฟื้นตัว
อย่างไรก็ตาม ธปท.คาดว่าในปี 64 เศรษฐกิจไทยจะกลับมาขยายตัวได้แต่ยังต่ำกว่าระดับศักยภาพ โดยในระยะสั้นยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์และมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ในช่วงต้นปี แต่คาดว่าผลกระทบโดยรวมจะน้อยกว่าการแพร่ระบาดในระลอกแรก เนื่องจากมาตรการเข้มงวดน้อยกว่า และบังคับใช้เฉพาะพื้นที่
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ดังกล่าวอาจเป็นการซ้ำเติมบางภาคเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้ช้ากว่ากลุ่มอื่น ทำให้การฟื้นตัวมีความแตกต่าง ผลกระทบต่อบางกลุ่มธุรกิจและแรงงานจึงควรได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
ในระยะข้างหน้า เศรษฐกิจไทยยังเผชิญความไม่แน่นอนอีกมาก ทั้งการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และประสิทธิผลและการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ดังนั้น โดยรวมเศรษฐกิจไทยจึงยังต้องการมาตรการที่ตรงจุด เพียงพอ และต่อเนื่องเพื่อประคับประคองการฟื้นตัว
ทั้งนี้ ธปท. จะมีการประเมินการขยายตัวเศรษฐกิจและเผยแพร่อีกครั้ง ในรายงานนโยบายการเงินฉบับเดือน มี.ค.64
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.พ. 64)
Tags: ชญาวดี ชัยอนันต์, ธปท., นโยบายการเงิน, เศรษฐกิจไทย