ผบ.ตร.พร้อมรับมือม็อบ 20 ก.พ.ยันยึดหลักกม.เตือนอย่าใช้ความรุนแรง

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยที่กลุ่มราษฎรนัดชุมนุมอีกครั้งวันที่ 20 ก.พ.นี้ เพื่อกดดันเจ้าหน้าที่ให้ปล่อยตัวนายอานนท์ นำภา, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และนายปฏิวัติ สาหร่ายแย้ม แกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎรที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนพิเศษกรุงเทพว่า ทุกครั้งที่ปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่มีการประเมินด้านการข่าว เตรียมกำลังและความพร้อมตามยุทธวิธี

ทั้งนี้ ขอฝากไปยังพี่น้องประชาชน ไม่อยากให้เกิดความรุนแรง เมื่อเกิดขึ้นแล้วมีคนบาดเจ็บสูญเสีย ไม่เป็นผลดี โดยเฉพาะคนในชาติเดียวกัน โดยขอฝากให้ตรึกตรองให้ดีคิดถึงผลดีผลเสีย และเจ้าหน้าที่เองทุกครั้งมีการทบทวนบทเรียน พราะการดำเนินการอะไรก็แล้วแต่ไม่มีทางจะยุติด้วยการใช้กำลัง

ส่วนคำถามที่ว่าม็อบพยายามยั่วยุเจ้าหน้าที่เพื่อให้เกิดความรุนแรงนั้น เราก็ดำเนินการตามสถานการณ์โดยยึดหลักของกฎหมายเป็นหลักและเรื่องของการรักษาความปลอดภัยความสงบเรียบร้อยควบคู่กันไป

ส่วนภาพที่เจ้าหน้าที่ทำร้ายผู้ชุมนุม ต้องมีการชี้แจงทำความเข้าใจ ทีมงานโฆษกต้องมีภาระที่มากขึ้นกว่าเดิมเพื่อทำความเข้าใจ เอาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมานำเสนอให้ได้ เช่นเดียวกับภาพที่เจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกายบุคลากรทางการแพทย์ได้มีการชี้แจงไปแล้ว กระบวนการทั้งหมดจะต้องไปจบที่กระบวนการยุติธรรม ชั้นตำรวจ ชั้นอัยการ ชั้นศาล ก็ต้องไปว่ากันตามกระบวนการ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการชุมนุมขณะนี้ที่สถานการณ์เริ่มรุนแรงขึ้นรวมถึงมีการจุดกระแสว่าถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายว่า เห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำงานด้วยความระมัดระวัง และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีชีวิตจิตใจและถ้าหากยิ่งมีความรุนแรงตอบโต้กันไปมาก็ยิ่งจะรุนแรงมากขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดีกับประเทศชาติและประชาชน พร้อมขอฝากเตือนไปยังผู้ที่ก่อเหตุว่าทุกอย่างมีพยานหลักฐาน

ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า เรื่องนี้มีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ด้วย ซึ่งต้องไปพิสูจน์ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ และขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน โดยขออย่ามีการบิดเบือนหรือฟังความข้างเดียว ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย

ส่วนที่มีการนัดหมายชุมนุมในวันที่ 17 และ 20 ก.พ. ในระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่อยากให้มีการเคลื่อนไหวในลักษณะมีการปลุกระดม เพราะไม่เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ ขณะนี้ประเทศมีปัญหาหลายเรื่องทั้งเรื่องโควิด-19 และปัญหาอื่นๆอีกมากมาย จึงไม่ควรเพิ่มปัญหา ขณะที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นกระบวนการทางสภาฯ และเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องชี้แจง ขอให้ประชาชนรอฟัง

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ วิดีโอคอลแนะนำให้แก้ปัญหาปากท้องประชาชนด้วยการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย เพราะเชื่อว่าถ้ารัฐธรรมนูญดีเศรษฐกิจก็จะดีขึ้นว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามกระบวนการในสภาฯ และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ โดยรัฐบาลสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมารัฐธรรมนูญก็มีหลายฉบับ ส่วนจะสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องการทุจริตได้บ้างหรือไม่ ตนก็ไม่ทราบเหมือนกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่ตนเองขอร้องคือเคารพกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน และให้เข้าใจว่าการแก้ไขกฎหมายทำไปเพื่ออะไร เพื่อใคร ซึ่งเจตนาของตนในฐานะหัวหน้ารัฐบาล คือต้องแก้ปัญหาประชาชนให้ได้มากที่สุด และวันนี้หลายมาตรการที่มีการผ่อนคลาย มีการสนุบสนุนวงเงินต่างๆ เพื่อให้ประชาชนและผู้ประกอบการเข้าถึงได้ โดยต้องทยอยให้ความช่วยเหลือตามความเดือดร้อนและทำอย่างรัดกุม

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.พ. 64)

Tags: , , ,
Back to Top