นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน บมจ. ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ (TPIPP) เปิดเผยว่า ในปี 64 บริษัทคาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่เติบโตต่อเนื่อง ตามแผนยุทธศาสตร์ 3-5 ปี ที่เคยกำหนดไว้ เพื่อสร้างการเติบโตระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้บรรลุเป้าหมายการเติบโตในระยะสั้นจากการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ซึ่งหลังจากนี้ TPIPP จะเร่งสร้างการเติบโตในระยะกลางต่อไป ในการเดินหน้าเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด บริษัทฯ ได้ชนะประมูลโรงไฟฟ้าขยะที่จังหวัดสงขลา กำลังการผลิต 9.9 เมกกะวัตต์ โดยมีสัญญาขายไฟ 7.92 เมกกะวัต์ มีสัญญาขายไฟ 20 ปี และสามารถต่อสัญญาได้อีก 5 ปี ต่อเนื่อง โดยมีราคาขายไฟฟ้าอยู่ที่ 5.78 บาท สำหรับ 8 ปีแรก และ 5.08 บาท สำหรับ 12 ปีหลัง อีกทั้งยังได้รับค่าจำกัดขยะอีก 400 บาทต่อตัน ตามประกาศของกระทรวงพลังงาน คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 2,000 ล้านบาท และจะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในปี 66
พร้อมกันนี้ บริษัทอยู่ระหว่างรอประกาศผลโครงการโรงไฟฟ้าขยะของ เทศบาลจังหวัดนครราชสีมา กำลังการผลิต 12 เมกกะวัตต์ โดยมีสัญญาขายไฟ 9.9 เมกะวัตต์ ซึ่งจะรู้ผลประมูลในเร็ว ๆ นี้
นอกจากนี้ TPIPP เตรียมเข้าประมูลงานโรงไฟฟ้าขยะอื่น ๆ อีกกว่า 11 โครงการ รวม 135 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเข้ามาชดเชย Adder จากโรงไฟฟ้าขยะชุดแรกที่จะทยอยหมดอายุช่วงไตรมาส 1 ถึงไตรมาส 3 ในปี 65 จำนวน 73 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทยังมี โรงไฟฟ้าที่รับ Adder อยู่อีก 90 เมกะวัตต์ ดังนั้น Adder ชุดแรกจึงนับเป็นเพียง 45% ของ Adder ทั้งหมด นอกจากนั้นถึงแม้จะสิ้นสุดการได้รับค่า Adder ในชุดแรก แต่ TPIPP ยังคงมีสัญญาจำหน่ายไฟฟ้าแก่ EGAT ที่ราคาไฟฟ้าฐานซึ่งสามารถต่ออายุสัญญาได้
ส่วนความคืบหน้าของโครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคตที่จะนะ สงขลา ซึ่งมติครม.เห็นชอบไปแล้วนั้น ขณะนี้บริษัทกำลังเตรียมการในการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ Environmental Impact Assessment (EIA) และรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรือ Environmental and Health Impact Assessment (EHIA) รวมถึงการเตรียมความพร้อมเรื่องที่ดิน เอกสารสิทธิ์ และใบอนุญาตต่าง ๆ โดยการกระทำทั้งหมดต้องทำตามทุกขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด ไม่มีการลัดขั้นตอนใด ๆ ทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าจะมีชุมชนบางกลุ่มคัดค้าน แต่บริษัทฯก็พร้อมที่จะแสดงเอกสารสิทธิ์เพื่อแสดงความถูกต้องตามกฎหมายต่อไป
นายภัคพล กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในปี 63 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 11,444 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.93%จากช่วงเดียวกันของปี 62 ที่มีรายได้ 10,905.82 ล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงานที่ 4,632 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.32% เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่มีกำไรจากการดำเนินงาน 4,617 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งปีที่บริษัทฯ สามารถสร้างประวัติศาสตร์ทำผลการดำเนินงานทุบสถิติใหม่ ทั้งด้านรายได้ กำไรจากการดำเนินงาน และปริมาณขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น หลังติดตั้งหม้อต้มไอน้ำ (Boiler) แล้วเสร็จ โดยสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า ทำให้มีอัตราการใช้กำลังการผลิตสูงกว่า 95%
ประกอบกับ รับผลบวกจากปริมาณการขายไฟฟ้าจากโรงงานปูนซีเมนต์ของบริษัทแม่ (TPIPL) บมจ. ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ ใช้ RDF จากขยะสดของเทศบาล (MSW) ซึ่งเทียบกับขยะสดประมาณ 10,000 ตันต่อวัน นับเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกจาก MSW ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.พ. 64)
Tags: TPIPP, ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์, ภัคพล เลี่ยวไพรัตน์, หุ้นไทย, โรงไฟฟ้าขยะ