เงินบาทเปิด 30.03/06 ต่อดอลล์ แนวโน้มแกว่งแคบในกรอบ 30.00-30.10 ตลาดไร้ปัจจัยใหม่

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.03/06 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.07 บาท/ดอลลาร์

วันนี้คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เพราะยังขาดปัจจัยใหม่ที่จะเข้ามามีผลต่อทิศทางของค่าเงิน โดยล่าสุดสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค. เพิ่มขึ้นต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ จึงทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าไปเล็กน้อย

“บาทวันนี้คงเคลื่อนไหวแคบ ไม่ค่อยมีปัจจัยอะไร เพราะเมื่อวันศุกร์ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐก็ออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ตลาดผิดหวัง ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าไป”

นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.00 – 30.10 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (5 ก.พ.) อยู่ที่ระดับ 0.29025% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.30237%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 105.46 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 105.47 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2035 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1978 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.116 บาท/ดอลลาร์
  • รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างศึกษาการปรับโครงสร้างภาษีเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปภาษีทั้งระบบเพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตเศรษฐกิจและมีรายได้เพียงพอกับนโยบายการคลังที่ต้องดำเนินการในอนาคต “นับตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งผมกังวลการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ที่ลดลงเรื่อยๆ เพราะจะทำให้รัฐบาลดำเนินนโยบายการคลังแบบขยายตัวในระยะยาวได้ยากขึ้น ซึ่งในอดีตการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลต่อจีดีพีอยู่ที่ 18% ปัจจุบันอยู่ที่ 14% ถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำเกินไป ดังนั้นจึงต้องมีการปฏิรูปการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลเพื่อให้รัฐบาลมีรายได้มากพอที่จะทำนโยบายการคลังแบบขยายตัวในอนาคต”
  • บริษัทซิโนแวก ไบโอเทคเปิดเผยในวันนี้ว่า หน่วยงานกำกับดูแลด้านผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ของจีนได้อนุมัติวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของบริษัทอย่างเป็นทางการแล้ว เพื่อให้ใช้กับประชาชนโดยทั่วไป
  • อีเธอร์ เงินคริปโตเคอเรนซีซึ่งมีมูลค่าตลาดสูงสุดเป็นอันดับสองของโลกรองจากบิตคอยน์ พุ่งขึ้นเมื่อคืนวานนี้ (5 ก.พ.) สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ทะลุ 1,700 ดอลลาร์ได้เป็นครั้งแรก
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันศุกร์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 49,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่า อาจเพิ่มขึ้น 50,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 6.3% ในเดือนม.ค. ต่ำกว่าที่นัก
    วิเคราะห์คาดไว้ว่า อาจทรงตัวที่ระดับ 6.7%
  • สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้อนุมัติร่างงบประมาณในวันศุกร์ (5 ก.พ.) ซึ่งจะเปิดทางให้พรรคเดโมแครตสามารถผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนผ่านสภาคองเกรสได้โดยไม่ต้องได้รับการสนับสนุนจากพรรครีพับลิกัน
  • รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้แสดงความเชื่อมั่นว่า การจ้างงานในสหรัฐจะกลับมาขยายตัวได้เต็มที่อีกครั้งในปี 2565 หากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
  • ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนม.ค. ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ. (เบื้องต้น) นอกจากนี้ตลาดอาจรอติดตามข้อมูลเดือนม.ค. ของจีน อาทิ ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิต ด้วยเช่นกัน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (8 ก.พ. 64)

Tags: , ,
Back to Top