นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานวาณิชธนกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหน่วยทรัสต์ เปิดเผยว่า หลังจากทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท หรือ CPN RETAIL GROWTH LEASEHOLD REIT (CPNREIT) ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหน่วยทรัสต์ (Filing) / ร่างหนังสือชี้ชวน ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ปัจจุบันได้รับการพิจารณาอนุมัติและมีผลใช้บังคับแล้ว
CPNREIT จึงเตรียมเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติม จำนวนไม่เกิน 355.56 ล้านหน่วย ที่ราคาเสนอขายสูงสุดไม่เกิน 19.50 บาทต่อหน่วย แก่ประชาชนทั่วไปซึ่งเป็นผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ CPNREIT และผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ GLANDRT ที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยทรัสต์ ณ วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่มีสิทธิจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติม (Book Close) เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา โดยสามารถตรวจสอบสิทธิจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมได้ที่ www.cpnreit.com และหากมีหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมที่เหลือจากการเสนอขายและจัดสรรแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ CPNREIT และ GLANDRT จะเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป
โดยภายหลังกองทรัสต์เข้าลงทุนเพิ่มเติมในโครงการศูนย์การค้าทั้ง 2 โครงการ คือ เซ็นทรัลมารีนา และเซ็นทรัลพลาซา ลำปาง ประมาณการเงินจ่ายผู้ถือหน่วยจะอยู่ที่ประมาณ 1.3860 บาทต่อหน่วย คิดเป็นประมาณการอัตราเงินจ่ายผู้ถือหน่วยอยู่ที่ประมาณร้อยละ 7.1 (อ้างอิงจากประมาณการงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จสำหรับปี 2564 ซึ่งที่ปรึกษาทางการเงินได้มีการปรับปรุงสมมติฐานราคาหน่วยทรัสต์ CPNREIT ที่ออกและเสนอขายที่ราคาสูงสุด 19.50 บาท/หน่วย และจำนวนหน่วยทรัสต์ที่เสนอขายที่ 355.56 ล้านหน่วย)
หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ราคาหน่วยของ CPNREIT ได้ปรับตัวลงมามาก จึงน่าจะเป็นโอกาสที่น่าสนใจในการเข้าลงทุน หากสถานการณ์ COVID-19 กลับมาเป็นปกติ คาดว่าราคาหน่วยทรัสต์มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ผลการดำเนินงานกลับมาเป็นปกติ
ทั้งนี้ ในการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติม แบ่งเป็น (1) การจัดสรรหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมประมาณร้อยละ 75 ของหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมทั้งหมด หรือประมาณ 266.67 ล้านหน่วย เพื่อเสนอขายแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ CPNREIT ตามสัดส่วนการถือหน่วยทรัสต์ โดยกำหนดอัตราเสนอขายที่ 8.2967 หน่วยทรัสต์เดิมของ CPNREIT ต่อ 1 หน่วยทรัสต์เพิ่มเติมของ CPNREIT (2) จัดสรรหน่วยทรัสต์เพิ่มเติม CPNREIT ประมาณร้อยละ 25 ของหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมที่เสนอขายทั้งหมด หรือประมาณ 88.89 ล้านหน่วย เพื่อเสนอขายแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ GLANDRT ตามสัดส่วนการถือหน่วยทรัสต์ โดยกำหนดอัตราเสนอขายที่ 5.6225 หน่วยทรัสต์ของ GLANDRT ต่อ 1 หน่วยทรัสต์เพิ่มเติมของ CPNREIT และ (3) หากมีหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมในส่วนที่เหลือจากการเสนอขายแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ CPNREIT และ GLANDRT จะจัดสรรแก่ประชาชนทั่วไป (Public Offering)
สำหรับประชาชนทั่วไปซึ่งเป็นผู้ถือหน่วยทรัสต์ของ CPNREIT และผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ GLANDRT ที่มีสิทธิจองซื้อ จะเปิดให้จองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมในวันที่ 8 – 9 กุมภาพันธ์ 2564 ระหว่างเวลาเปิดทำการ และวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ตั้งแต่เวลาเปิดทำการถึงเวลา 15.30 น. ส่วนประชาชนทั่วไปเปิดให้จองซื้อในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 และวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 ระหว่างเวลาเปิดทำการ และวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 ตั้งแต่เวลาเปิดทำการถึงเวลา 15.30 น. โดยจองซื้อได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ทุกสาขาทั่วประเทศ สำนักงานใหญ่ของบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยจองซื้อที่ราคาเสนอขายสูงสุดที่ 19.50 บาทต่อหน่วย โดยผู้จัดการกองทรัสต์จะแจ้งราคาเสนอขายสุดท้ายให้ทราบต่อไป
ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายสุดท้ายจะกำหนดจากกระบวนการสำรวจความต้องการซื้อหน่วยทรัสต์จากผู้ลงทุนสถาบัน ที่เข้าร่วมการสำรวจความต้องการซื้อ และ/หรือนิติบุคคลที่สามารถเข้าร่วมสำรวจความต้องการซื้อ (Book Building) โดยหากราคาเสนอขายสุดท้าย (Final Price) ต่ำกว่าราคาเสนอขายสูงสุด ผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์จะคืนเงินส่วนต่างแก่ผู้จองซื้อทุกราย
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (MBKET) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหน่วยทรัสต์ กล่าวว่า CPNREIT นับเป็นกองทรัสต์ชั้นนำและมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ใหญ่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและมีสภาพคล่องในการซื้อขายที่ดี โดยการเข้าลงทุนทรัพย์สินเพิ่มเติมของ CPNREIT จะเพิ่มความมั่นคงของผลการดำเนินงาน โดยเป็นการกระจายการลงทุนในโครงการศูนย์การค้าที่มีศักยภาพในทำเลที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ผลการดำเนินงานของ CPNREIT ในช่วงไตรมาส 3/2563 ที่ฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2563 สะท้อนภาพรวมธุรกิจศูนย์การค้าที่เริ่มเข้าสู่ช่วงฟื้นตัว ภายหลังเปิดบริการศูนย์การค้าได้อีกครั้งตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา
ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ ปัจจุบันภาครัฐสามารถเริ่มควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อในหลายๆ จังหวัดได้ ตลอดจนการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในบางจังหวัด คาดว่าจะส่งผลให้สถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลายลงได้ในอนาคต ประกอบกับด้วยความเชี่ยวชาญของบมจ. เซ็นทรัลพัฒนา(CPN) ซึ่งเป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของ CPNREIT ที่มีประสบการณ์ในการบริหารศูนย์การค้ามายาวนานเกือบ 40 ปี ผ่านวิกฤตการณ์ต่างๆ มาอย่างมากมาย จะสามารถบริหารโครงการศูนย์การค้าที่เป็นทรัพย์สินของ CPNREIT ให้มีผลการดำเนินงานที่ดีและสามารถสร้างผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ได้
นางสาวพิรินี พริ้งศุลกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีเอ็น รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เปิดเผยว่า CPNREIT จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมในโครงการศูนย์การค้าจำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวมไม่เกิน 5,672 ล้านบาท (ไม่รวมค่าใช้จ่าย ที่เกี่ยวข้อง) จากกลุ่ม CPN ซึ่งเป็นไปตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ของ CPNREIT ครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 โดยทรัพย์สินที่จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมมีศักยภาพในการสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่อง และมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยในช่วง 3 ปีย้อนหลัง (ปี 2560-2562) และในงวด 9 เดือนสิ้นสุด 30 กันยายน 2563 สูงมากกว่าร้อยละ 90 และมีรายได้สุทธิจากอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 3 ปี 2563 สูงกว่าไตรมาส 2 ปี 2563 ประมาณ 100% สะท้อนผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัวภายหลังจากการได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และการปิดศูนย์การค้าในช่วงไตรมาส 2 ปี 2563 ที่ผ่านมา
โดยรายละเอียดการลงทุนเพิ่มเติมดังกล่าวประกอบด้วย (1) โครงการเซ็นทรัลมารีนา โดยเป็นการลงทุนในสิทธิการเช่า / เช่าช่วงอสังหาริมทรัพย์ สิทธิการเช่าในงานระบบ ระยะเวลาประมาณ 15 ปี (สิ้นสุดการเช่า 30 เมษายน 2578) และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วยพื้นที่ให้เช่าประมาณ 14,793 ตารางเมตร โดยมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยในงวด 9 เดือนสิ้นสุด 30 กันยายน 2563 ประมาณ 97.2% และ (2) โครงการเซ็นทรัลพลาซา ลำปาง โดยเป็นการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์และงานระบบ ระยะเวลาประมาณ 21 ปี (สิ้นสุดการเช่า 16 ธันวาคม 2584) และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วยพื้นที่ให้เช่าประมาณ 15,863 ตารางเมตร โดยมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยในงวด 9 เดือนสิ้นสุด 30 กันยายน 2563 ประมาณ 93.4% ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าลงทุนเพิ่มเติมจะแต่งตั้ง CPN เป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ต่อไป
“CPN ในฐานะผู้ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์และงานระบบ และจะเป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของทรัพย์สินที่จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมทั้ง 2 โครงการ ได้ให้การสนับสนุนกองทรัสต์ โดยปรับลดราคาทรัพย์สินที่ CPNREIT จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้เป็นมูลค่าการลงทุนไม่เกิน 5,672 ล้านบาท จากเดิมที่มีมูลค่าไม่เกิน 5,866 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าการลงทุนสูงสุดที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ครั้งที่ 1/2562 และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและสนับสนุนให้การออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมในครั้งนี้ประสบความสำเร็จกลุ่ม CPN จะจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมอย่างน้อยตามสิทธิที่ได้รับการจัดสรรของตนในฐานะที่เป็นผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิม และประสงค์จะให้กลุ่ม CPN เข้าจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมในส่วนเหลือจากการจัดสรรให้ผู้ลงทุนรายอื่น ๆ ตามรายละเอียดที่ CPN ได้มีการประกาศออกไป”
นางสาวพิรินี กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.พ. 64)
Tags: MBKET, SCB, ซีพีเอ็น รีท แมเนจเมนท์, ธนาคารไทยพาณิชย์, พิรินี พริ้งศุลกะ, มนตรี ศรไพศาล, วีณา เลิศนิมิตร, เซ็นทรัล, เมย์แบงก์ กิมเอ็ง