บริษัทแอมะซอนเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 4/2563 ในช่วงเช้านี้ตามเวลาไทย โดยระบุว่า กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 14.09 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่ Refinitiv คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 7.23 ดอลลาร์
ขณะที่รายได้อยู่ที่ระดับ 1.2556 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.197 แสนล้านดอลลาร์ โดยนับเป็นครั้งแรกที่รายได้ของแอมะซอนพุ่งขึ้นทะลุระดับ 1 แสนล้านดอลลาร์ เนื่องจากความต้องการซื้อสินค้าออนไลน์ของผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาด
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 1/2564 นั้น แอมะซอนคาดการณ์ว่า กำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 1 จะอยู่ที่ 3-6.5 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่มีต้นทุนราว 2 พันล้านดอลลาร์ที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบของโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาด
ขณะเดียวกันคาดว่า ยอดขายในไตรมาส 1 ของอเมซอนจะอยู่ที่ 1-1.06 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งแม้ว่าชะลอตัวลงจากยอดขายในไตรมาส 4/2563 แต่ก็เพิ่มขึ้นราว 33-40% จากไตรมาส 1/2563
นอกจากการเปิดเผยผลประกอบการแล้ว บริษัทแอมะซอนยังประกาศว่า นายเจฟฟ์ เบซอส จะลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของแอมะซอนในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ โดยนายเบซอสจะดำรงตำแหน่งประธานบริหารของแอมะซอน ส่วนนายแอนดี้ แจสซี ซีอีโอในธุรกิจ Amazon Web Services จะเข้ามาดำรงตำแหน่งซีอีโอแทนนายเบซอส
ทั้งนี้ นายเบซอสได้ประกาศการตัดสินใจในวันเดียวกับที่แอมะซอนรายงานผลประกอบการไตรมาส 4/2563 และได้แจ้งให้พนักงานทุกคนทราบผ่านทางหนังสือเวียน โดยนายเบซอสกล่าวว่า ในบทบาทใหม่ของเขานั้น เขาจะให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์และการริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ซึ่งรวมถึงกองทุน Day One Fund และ Bezos Earth Fund อีกทั้งจะทุ่มเทเวลาในการดูแลหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ และบริษัท Blue Origin ซึ่งเป็นธุรกิจส่วนตัวของเขา
ข่าวการประกาศลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของนายเบซอสได้สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุน อย่างไรก็ดี ราคาหุ้น Amazon พุ่งขึ้นราว 1% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการในตลาดหุ้นนิวยอร์ก เนื่องจากผลประกอบการของแอมะซอนออกมาดีเกินคาด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.พ. 64)
Tags: Amazon, สินค้าออนไลน์, เจฟฟ์ เบซอส, แอนดี้ แจสซี