นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินเมื่อคืนนี้ว่า ทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐในวันข้างหน้าจะยังคงขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมกับกล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่กลับมาเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงเมื่อไม่นานมานี้ รวมทั้งจำนวนผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น กำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชาวอเมริกันหลายล้านคน อีกทั้งสร้างแรงกดดันต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน
นายพาวเวลกล่าวว่า หลังจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว เศรษฐกิจก็ฟื้นตัวเพียงเล็กน้อยในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจกระจุกตัวอยู่ในภาคส่วนที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุดจากการแพร่ระบาดครั้งใหม่ของโรคโควิด-19 รวมทั้งการใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่เข้มงวดมากขึ้น
“เศรษฐกิจยังคงอยู่ห่างไกลจากเป้าหมายด้านการจ้างงานและเงินเฟ้อของเฟด ซึ่งเราคาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งก่อนที่เราจะสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวอย่างยั่งยืน”
นายพาวเวลกล่าว
นายพาวเวลระบุว่า อัตราการมีส่วนร่วมในตลาดแรงงานในขณะนี้อยู่ที่ระดับต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาด และอัตราว่างงานที่แท้จริงเคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับ 10% ซึ่งหมายความว่า ชาวอเมริกันกว่า 9 ล้านคนยังคงตกงานเนื่องจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาด
ทั้งนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า นโยบายการคลังถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก พร้อมระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นนับตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากรัฐบาลกลางเพิ่มการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและขยายโครงการช่วยเหลือคนว่างงาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนครัวเรือนและประชาชนจำนวนมาก
อย่างไรก็ดี นายพาวเวลได้แสดงมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในปีนี้ โดยกล่าวว่า “การฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเป็นวงกว้างและมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้เราสามารถเอาชนะการแพร่ระบาดและจะช่วยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับสู่ภาวะปกติได้ ในขณะเดียวกัน การเว้นระยะห่างทางสังคม และการสวมหน้ากากอนามัย ก็จะช่วยให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายได้ในไม่ช้านี้”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ม.ค. 64)
Tags: ธนาคารกลางสหรัฐ, อัตราว่างงาน, เจอโรม พาวเวล, เฟด, เศรษฐกิจสหรัฐ, โควิด-19