
บริษัทโมเดอร์นา อิงค์ของสหรัฐเปิดเผยว่า วัคซีนต้านโรคโควิด-19 ที่ทางบริษัทได้พัฒนาขึ้นนั้น ยังคงสามารถป้องกันไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ที่พบในอังกฤษและแอฟริกาใต้ได้ ท่ามกลางความกังวลที่ว่า การกลายพันธุ์ของไวรัสดังกล่าวจะทำให้วัคซีนที่มีอยู่ใช้ไม่ได้ผล
อย่างไรก็ดี โมเดอร์นาพบว่า ไวรัสกลายพันธุ์ที่พบในแอฟริกาใต้นั้นทำให้ระดับการตอบสนองของแอนติบอดีลดลง เมื่อเทียบกับไวรัสกลายพันธุ์ในอังกฤษซึ่งมีระดับการตอบสนองของแอนติบอดีไม่ลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าการฉีดวัคซีนโควิดจำนวน 2 โดสจะสามารถป้องกันไวรัสสายพันธุ์แอฟริกาใต้ได้
บริษัทจะทำการทดสอบฉีดวัคซีนกระตุ้นครั้งใหม่ที่เน้นป้องกันสายพันธุ์แอฟริกาใต้ โดยจะใช้วัคซีนกระตุ้นที่ต่อยอดมาจากวัคซีนเดิม ก็จะเป็นวัคซีนใหม่ที่คิดค้นขึ้นเพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาใต้โดยเฉพาะ
โมเดอร์นาคาดหวังว่า วัคซีนของบริษัทจะสามารถป้องกันโรคโควิด-19 เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปีหลังจากฉีดครบ 2 โดสแล้ว โดยบริษัทยังไม่มีแผนในการทดสอบการฉีดโดสที่ 3 จนกว่าจะฉีดครบ 2 โดสไปแล้วอย่างน้อย 6 เดือน
สตีเฟน ฮอดจ์ ประธานของโมเดอร์นา กล่าวว่า “ไวรัสจะไม่หยุดนิ่ง” และเสริมว่า “แม้วัคซีนของเราดูเหมือนจะให้การปกป้องเป็นอย่างดีจากไวรัสสายพันธุ์ปัจจุบัน แต่เราจำเป็นต้องรอบคอบและคิดค้นเครื่องมือและมาตรการตอบรับต่างๆ เพื่อให้เรายังคงจัดการกับการแพร่ระบาดได้”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ม.ค. 64)
Tags: COVID-19, วัคซีน, วัคซีนต้านโควิด-19, สตีเฟน ฮอดจ์, สหรัฐ, โควิด-19, โมเดอร์นา