โบรกเกอร์แนะนำ”ซื้อ”หุ้น บมจ.น้ำมันพืชไทย (TVO) หลังราคาถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองยังทรงตัวในระดับสูง รับอานิสงส์เชิงบวกสถานการณ์ภัยแล้งในกลุ่มประเทศอเมริกาใต้และบราซิล ทำให้อุปทานลดลง ผลักดันส่วนต่าง (สเปรด) ราคาขายระหว่างราคาเมล็ดถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น
ประกอบกับคาดว่าแนวโน้มความต้องการนำเข้าถั่วเหลืองในจีนจะเพิ่มขึ้นจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนน่าจะคลี่คลาย หลังนายโจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ หนุนผลประกอบการทั้งปี 63 ให้เติบโตดี และต่อเนื่องไปถึงช่วงครึ่งแรกของปี 64
ช่วงบ่ายราคาหุ้น TVO อยู่ที่ 34.75 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.42% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.77%
โบรกเกอร์ | คำแนะนำ | ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) |
เคทีบีเอสที | ซื้อ | 44.00 |
ทิสโก้ | ซื้อ | 42.75 |
ฟินันเซีย ไซรัส | ซื้อ | 44.00 |
ฟิลลิป | ซื้อ | 40.00 |
นางสาวนารี อภิเศวตกานต์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมผลประกอบการของ TVO ในไตรมาส 4/63 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาที่ 504 ล้านบาท จากส่วนต่างราคาขายที่ดีขึ้น หลังเริ่มเห็นผลบวกจากราคาถั่วเหลืองปรับขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/63 จากสต็อกในสหรัฐที่ต่ำสุดรอบ 7 ปี และผลผลิตในอเมริกาใต้ที่ได้รับผลจากภัยแล้ง ส่งผลให้ราคาขายกากถั่วเหลืองเพิ่ม 5-7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
ขณะเดียวกันยังได้ผลบวกจากราคาน้ำมันปาล์มดิบที่เพิ่มขึ้น จากสต็อกในประเทศที่ลดลงในเดือน พ.ย.63 มาอยู่ที่ 2.98 แสนตัน จากการนำมาผสมในไบโอดีเซลมากขึ้นตามการใช้ B10 เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับสต็อกของผู้ผลิตรายใหญ่ในตลาดโลกอย่างมาเลเซียที่ลดลงในระดับต่ำ หลังผู้บริโภครายใหญ่อย่างจีนและอินเดียกลับมาสั่งซื้ออีกครั้ง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะช่วยลดผลกระทบจากการแข่งขันด้านราคาในกลุ่มน้ำมันลง โดยคาดว่าผลการดำเนินงานปี 63 เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน มาที่ระดับ 1,693 ล้านบาท
“ภาพรวมส่วนหนึ่งมาจากราคาถั่วเหลืองปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ส่วนต่างราคาขายเติบโตได้ดี ขณะที่บริษัทก็มีการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าด้วย ทำให้แนวโน้มผลประกอบการเติบโตดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/63 เป็นต้นไปต่อเนื่องมาถึงปีนี้”
นางสาวนารี กล่าว
นางสาวนารี กล่าวว่า TVO ได้ซื้อถั่วเหลืองไว้ใช้จนถึงครึ่งแรกของปี 64 แล้ว ท่ามกลางแนวโน้มราคาถั่วเหลืองยังสูงขึ้นในปีนี้ จากปริมาณสต็อกถั่วเหลืองในสหรัฐที่ลดลง และยังมีความไม่ชัดเจนว่าผลผลิตถั่วเหลืองของบราซิลที่จะเก็บเกี่ยวในเดือน ก.พ.เป็นต้นไป จะได้รับผลกระทบจากภัยแล้งหรือไม่ ทำให้คาดว่า TVO ยังได้อานิสงส์เชิงบวกจากส่วนต่างราคาขายที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ปรับเพิ่มประมาณการผลการดำเนินงานของ TVO ในปี 64 ตามราคาถั่วเหลืองที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่ายอดขายอยู่ที่ 25,136 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน และคาดส่วนต่างราคาขายดีขึ้นจากราคาถั่วเหลืองที่เพิ่มขึ้นและปรับกำไรสุทธิเพิ่มเป็น 2,155 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 27% จากปีก่อน
อย่างไรก็ดี คงแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 40 บาท จากยังมีมุมมองบวกต่อการดำเนินงานที่ดีจากราคาถั่วเหลืองที่ปรับขึ้น ขณะที่ TVO ยังเป็นหุ้นที่จ่ายเงินปันผลที่ดีและสม่ำเสมอ โดยคาดว่าการจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 63 ที่ 1.75 บาท/หุ้น แต่ TVO จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วทำให้จะเหลือจ่ายปันผลอีก 0.85 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 2.3% และปี 64 คาดเงินปันผลอยู่ที่ 2.20 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผลราว 6% ต่อปี ณ ราคาปัจจุบัน
ด้านบทวิเคราะห์ บล.เคทีบีเอสที ระบุไปในทิศทางเดียวกันว่า คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ TVO แต่ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 44 บาท จากเดิมที่ 37 บาท หลังประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 4/63 อยู่ที่ 464 ล้านบาท เติบโต 17% จากช่วงเดียวกันของปี 62 และสูงขึ้น 31% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากราคาถั่วเหลืองเฉลี่ยช่วงไตรมาส 4/63 ปรับตัวขึ้น 26% จากงวดปีก่อน และ 22% จากไตรมาสก่อน และราคากากถั่วเหลืองเฉลี่ยปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 386.8 เหรียญสหรัฐฯ/ช็อตตัน เพิ่มขึ้น 30% จากงวดปีก่อน และ 29% จากไตรมาสก่อน
ขณะเดียวกันปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 63-64 ลงเล็กน้อย แต่ยังเติบโตใกล้เคียงระดับที่ประเมินก่อนหน้า โดยประเมินกำไรสุทธิปี 63 ที่ 1,653 ล้านบาท เติบโต 17% จากปีก่อนหน้า และปี 64 ที่ 2,017 ล้านบาท หรือเติบโต 22% จากปี 63 จากราคาถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองที่มีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูง ปัจจุบันราคาถั่วเหลืองปรับขึ้น 46% เทียบราคาเฉลี่ยปี 63 และกากถั่วเหลืองขึ้นมาที่ 426.4 เหรียญสหรัฐฯ/ช็อตตัน เติบโต 43% เทียบราคาเฉลี่ยปี 63 จากอุปทานที่ลดลงจากภาวะ La Nina ในกลุ่มประเทศอเมริกาใต้
ประกอบกับประเทศจีนมีแนวโน้มการนำเข้าถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนมีแนวโน้มดีขึ้นหลังจากนายโจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มที่ยืนอยู่ในระดับสูงทำให้ความต้องการน้ำมันถั่วเหลืองเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ราคาน้ำมันถั่วเหลืองเพิ่มมากขึ้น
ด้าน บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า TVO ได้ปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของราคาถั่วเหลืองโลกที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่กลางปี 63 ทำให้คาดผลประกอบการไตรมาส 4/63 อยู่ที่ 483 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 36% จากไตรมาส 3/63 จากคาดรายได้ที่ 6,940 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสก่อน หนุนโดยราคากากถั่วเหลืองที่เพิ่มขึ้น 22.4% จากไตรมาสก่อน และราคาน้ำมันถั่วเหลืองที่เพิ่มขึ้นจากงวดปีก่อน
ราคาถั่วเหลืองอยู่ที่ 12.8 บาท/กิโลกรัม เพิ่มขึ้น 18.8% ทำให้อัตรากำไรจะเพิ่มขึ้นเป็น 11.8% จาก 10.4% ในไตรมาสก่อน และ 10.9% จากงวดปีก่อน ขณะที่มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) อยู่ที่ 3.1% คงที่เมื่อเทียบกับงวดปีก่อน และไตรมาสก่อน ทำให้กำไรจากการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้น 31.7% เป็น 606 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรที่ 8.7% เทียบกับ 7.3% ในช่วงไตรมาสก่อน
ทั้งนี้ คาดว่าผลการดำเนินงานจะดีขึ้นจากไตรมาสก่อน และต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปี 64 จากคาดว่าอุปทานถั่วเหลืองจะจำกัดต่อในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ หลังจากที่ปริมาณสต็อกต่ำสุดรอบ 9 ปีที่ 22.8% จากเดิมที่ 23.2% ณ ช่วงต้นปี 64 โดยคาดว่า TVO จะรักษาส่วนแบ่งการตลาดจากถั่วเหลืองนำเข้าได้เช่นเดียวกับปี 63 หลังจากอุปทานในอาร์เจนตินามีจำกัด
พร้อมทั้งคาดว่าเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งหลังของปี 63 ของ TVO อยู่ที่ 0.83 บาท/หุ้น และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสำหรับทั้งปี 64 อยู่ที่ 6.7%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ม.ค. 64)
Tags: Consensus, TVO, ทิสโก้, นารี อภิเศวตกานต์, น้ำมันพืช, น้ำมันพืชไทย, ฟินันเซีย ไซรัส, ฟิลลิป, หุ้นไทย, เคทีบีเอสที