นายเนวินธุ์ ช่อชัยทิพฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) นายทศพล เพ็งส้ม กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.ทองศูนย์ อุ่นวงค์ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ให้เอาผิดกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในข้อหา ม.112 และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 กรณีไลฟ์เฟซบุ๊กวิจารณ์การนำเข้าวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 โดยการจองล่วงหน้าและจัดซื้อผ่านบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า สหราชอาณาจักร ที่เชื่อมโยงกับบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์
นายทศพล กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้มาแจ้งความเอาผิดนายธนาธร จากการวิจารณ์รัฐบาลเรื่องการนำเข้าการผลิตวัคซีน โดยมีหลักเป็นถ้อยความที่ได้แกะมาจากคลิปไลฟ์สดกว่า 30 นาที ตั้งแต่นาทีที่ 03.20 น. รวมแล้ว 11 ช่วงตอน กล่าวหารัฐบาลเรื่องประสิทธิภาพการและการผลิตล่าช้า รวมทั้งนำสถาบันฯ เข้ามาเกี่ยวข้องจากการถือหุ้นในบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์น จึงแจ้งความเอาผิด เนื่องจากสร้างความบิดเบือนเข้าใจผิดต่อสังคม ขณะที่ภาครัฐได้ชี้แจงในประเด็นต่างๆ ไปแล้ว
นายทศพล กล่าวอีกว่า หากพบว่ามีใครเกี่ยวข้องอีกก็จะดำเนินคดีทั้งหมด โดยจะติดตามการทำงานของพนักงานสอบสวนอย่างใกล้ชิด ส่วนกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งคำถามเรื่องงบประมาณเกี่ยวกับวัคซีนนั้น มองว่าการชี้นำกับการตั้งคำถามนั้นต่างกัน กรณีของนายธนารธรเป็นการชี้นำให้เกิดความเข้าใจผิด
ด้านนายสุภรณ์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำหากมีใครบิดเบือนนำข่าวเท็จมากล่าวหาดูหมิ่น คงต้องดำเนินการตามกฎหมาย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ม.ค. 64)
Tags: ดีอีเอส, ทศพล เพ็งส้ม, ทองศูนย์ อุ่นวงค์, ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์, ม.112, สุภรณ์ อัตถาวงศ์, เนวินธุ์ ช่อชัยทิพฐ์, แจ้งความ