นายพงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดีเฮ้าส์พัฒนา (DHOUSE) เปิดเผยกับ”อินโฟเควสท์” ว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 64 จะเติบโตได้ต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 20% โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ราว 50 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ทั้งหมดภายในปีนี้
ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนเปิดโครงการแนวราบใหม่ 2 โครงการ โดยจัดเตรียมที่ดินไว้แล้ว คือ โครงการ U Park บ้านจัดสรร บนพื้นที่ 40 ไร่ ใกล้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม รวม 249 ยูนิต มูลค่าโครงการราว 607.07 ล้านบาท จะเปิดขายไตรมาส 1/64 และโครงการ แกรนด์บิซ 2 อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น จำนวน 40 ยูนิต บนพื้นที่ 3 ไร่ ใกล้มหาวิทยาลัย ศูนย์การค้า และสถานที่ราชการต่างๆ มูลค่าโครงการ 127.60 ล้านบาท จะเปิดขายโครงการไตรมาส 2/64
นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการเตรียมลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปแผนลงทุนในปลายปี 64 ก่อนเริ่มก่อสร้างในปี 65 และเปิดขายในปี 66 ซึ่งบริษัทจะมีการศึกษาเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ประเภทปล่อยเช่าด้วย เพื่อให้มีสัดส่วนรายได้ประจำเข้ามาเพิ่มเติม
ขณะที่ ล่าสุดบริษัทได้อนุมัติการจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ภายใต้ชื่อบริษัท ดีกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (DGH) ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ถือหุ้น 99.99% และให้ DGH เข้าซื้อกิจการบริษัท ดี เอนเนอร์จี แอนด์ รีเทล จำกัด (DER) ในสัดส่วน 99.98% จากผู้ถือหุ้นเดิม เพื่อรองรับโครงการ Mixed-use ที่จะมีทั้งร้านค้าปลีก ปั้มน้ำมัน และร้านอาหารให้บริการบนพื้นที่ 25 ไร่ด้านหน้าโครงการ U Park เบื้องต้นคาดจะใช้งบลงทุนราว 150 ล้านบาท
ขณะเดียวกันบริษัทยังศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนโครงการ Mixed-use เพิ่มเติมในจังหวัดขอนแก่น หากโครงการแรกได้รับการตอบรับดี
“การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อนที่ปิดเมืองไปทั้งหมด แต่ครั้งนี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆยังคงดำเนินการต่อได้ ในส่วนของผู้เข้าชมโครงการก็ยังมีต่อเนื่อง ซึ่งในพื้นที่ของเราปัจจุบันถือว่ายังไม่ได้รับผลกระทบต่อการแพร่ระบาดรอบใหม่ ในขณะเดียวกันเรายังได้ปรับกลยุทธ์ในการกระจายรายได้ไปยังธุรกิจค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ให้เช่า และคอนโดมิเนียมด้วย”
นายพงศ์พจน์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ม.ค. 64)
Tags: DER, DGH, DHOUSE, คอนโดมิเนียม, ดี เอนเนอร์จี แอนด์ รีเทล, ดีกรุ๊ป โฮลดิ้งส์, ดีเฮ้าส์พัฒนา, พงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร, อสังหาริมทรัพย์