นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ประธานคณะกรรมการโครงการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs Pro-active) เปิดเผยว่า ในปี 2564 โครงการ SMEs Pro-active ได้ขยายหลักเกณฑ์โครงการเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs ไทยมีโอกาสในการขยายสู่ตลาดต่างประเทศด้วยช่องทางที่หลากหลายมากขึ้น แม้ว่าจะมีภาวะวิกฤตโควิด-19 ระลอกใหม่
ซึ่งกรมฯ มีการปรับกิจกรรมส่งเสริมตลาดให้สอดคล้องกับวิถี New Normal อย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของโครงการ SMEs Pro-active ได้ขยายหลักเกณฑ์เพื่อครอบคลุมกิจกรรมงานแสดงสินค้า/บริการในต่างประเทศ หรือที่เรียกว่า Virtual Exhibition และกิจกรรมเจรจาธุรกิจในรูปแบบ Showroom ในช่วงการจัดงาน Fashion Week ในต่างประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการยังพบปะผู้ซื้อและเจรจาธุรกิจได้ แม้ว่าจะยังไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศด้วยตนเอง
นายสมเด็จ กล่าวว่า การสนับสนุนผู้ประกอบการเข้าร่วมงาน Virtual Exhibition ครอบคลุมทั้งงานแสดงสินค้า/บริการเสมือนจริงในต่างประเทศ และแพลตฟอร์มออนไลน์ของงานแสดงสินค้าในต่างประเทศทุกประเภทสินค้า ผู้ประกอบการสามารถเบิกจ่ายได้ตามจริง ไม่เกิน 50,000 บาท/บริษัท/ครั้ง 6 สิทธิ์ โดยค่าใช้จ่ายที่สนับสนุน ได้แก่ ค่าสมัครเข้าร่วมงานและค่าประชาสัมพันธ์/เข้าร่วมการเจรจาการค้า ส่วนกิจกรรมเจรจาธุรกิจในรูปแบบ Showroom ช่วงการจัดงาน Fashion Week ในต่างประเทศ เบิกจ่ายตามจริงได้ไม่เกิน 200,000 บาท 6 สิทธิ์ ค่าใช้จ่ายที่สนับสนุน ได้แก่ ค่าเข้าร่วมกิจกรรม ค่านำเสนอขายสินค้า และประชาสัมพันธ์
โครงการ SMEs Pro-active เป็นโครงการที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ดำเนินการร่วมกับภาคเอกชน ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.), หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) และสมาคมธนาคารไทย เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ไทย สามารถขยายตลาดต่างประเทศได้ด้วยตนเอง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในตลาดโลก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ม.ค. 64)
Tags: SMEs, กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ, กระทรวงพาณิชย์, การค้าระหว่างประเทศ, งานแสดงสินค้า, สมเด็จ สุสมบูรณ์, เอสเอ็มอี