หุ้น JAK เปิดเทรดวันแรกที่ 2.26 บาท เพิ่มขึ้น 0.81 บาท (+55.86%) จากราคาขาย IPO ที่ 1.45 บาท/หุ้น
บล.โกลเบล็ก เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนบมจ.จักรไพศาล เอสเตท (JAK) ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินราคาเหมาะสมในปี 2564 หุ้น JAK ราว 2.48 บาทต่อหุ้น ด้วยวิธี Prospective PER ที่ระดับ โดยใช้ Prospective PER ที่ระดับ 11 เท่า ซึ่งต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่อยู่ที่ระดับ 18 เท่า โดยประมาณกำไรต่อหุ้นในปี 64 เท่ากับ 0.225 บาท
ทั้งนี้ คาดผลประกอบการปี 2563 หดตัวและพลิกฟื้นเติบโตสูงในปี 2564 โดยประเมินรายได้ในช่วงปี 2563 อยู่ที่ราว 85 ล้านบาท ซึ่งหดตัว 45%YoY สมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้น (%GPM) อยู่ที่ระดับ 50% และอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้รวม (%SG&A/Sales) ราว 44% คาดการณ์กำไรปี 2563 อยู่ที่ราว 16 ล้านบาท หดตัว 52%YoY (งวด 9 เดือนปี 63 มีกำไรสุทธิ 12.7 ล้านบาท คิดเป็น 78% ของประมาณการทั้งปี)
สำหรับปี 2564 จะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการเฟิร์นเฟสสองราวไตรมาสแรก และในไตรมาส 2/64 คาดจะเริ่มโอนโครงการ CANNA อีกทั้งเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการ Peony & Pine ราวไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 พร้อมประมาณการรายได้ราว 271 ล้านบาทจากการโอน พลิกฟื้นเติบโต 219%YoY และใช้สมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้น (%GPM) ราว 50% ใกล้เคียงกับปี 2563 และอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้รวม (%SG&A/Sales) ราว 20% และคาดการณ์กำไรสุทธิปี 64 ราว 72 ล้านบาท เติบโต 342%
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มชะลอตัวในปี 2563 แต่เริ่มมีทิศทางดีขึ้นหลังผ่านช่วงล็อกดาวน์ โดย REIC กล่าวว่าตลาดที่อยู่อาศัยได้รับผลกระทบของการใช้มาตรการควบคุม LTV ในช่วงปลายปี 62 และปี 63 ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ดี แนวโน้มของธุรกิจอสังหาฯ เริ่มปรับดีขึ้นหลังจากผ่านพ้นช่วงล็อกดาวน์ ในช่วงครึ่งหลังของปี 63 นอกจากนี้ ตลาดที่อยู่อาศัยใน จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ที่ JAK มีโครงการการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ยังคงมีศักยภาพที่ดีและมีทิศทางที่จะเติบโตขึ้น เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ม.ค. 64)
Tags: JAK, จักรไพศาล เอสเตท, หุ้นไทย, อสังหาริมทรัพย์