CDC เตือนไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่พบในอังกฤษอาจแพร่ระบาดหนักในสหรัฐเดือนมี.ค.นี้

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเตือนในวันศุกร์ (15 ม.ค.) ว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วซึ่งตรวจพบเป็นครั้งแรกในอังกฤษนั้น อาจกลายเป็นไวรัสโควิดสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในสหรัฐภายในเดือนมี.ค.นี้

ทั้งนี้ ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ซึ่งมีชื่อว่า B.1.1.7 นั้น สามารถแพร่ระบาดได้รวดเร็วถึงสองเท่าเมื่อเทียบกับไวรัสโควิดสายพันธุ์เดิมที่กำลังระบาดอยู่ในสหรัฐในขณะนี้ โดยจนถึงขณะนี้มีประชาชน 76 คนจาก 10 รัฐในสหรัฐติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่

CDC ระบุในรายงานประจำสัปดาห์ว่า การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วจะเพิ่มภาระให้กับทรัพยากรด้านสุขภาพในช่วงเวลาที่การติดเชื้อเพิ่มขึ้น, ทำให้ทรัพยากรด้านการดูแลสุขภาพที่ตึงตัวอยู่แล้วลดลงอีก และเพิ่มความจำเป็นในการปฏิบัติตามกลยุทธ์เพื่อลดการแพร่ระบาด เช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม และการสวมหน้ากากอนามัย
CDC บ่งชี้ว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่ระบาดได้รวดเร็วจะเพิ่มเปอร์เซนต์ของประชากรที่จำเป็นต้องฉีดวัคซีน เพื่อให้บรรลุผลในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด

“ความสามารถในการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นของเชื้อโควิดสายพันธุ์ B.1.1.7 ทำให้ต้องใช้กลยุทธ์ด้านสาธารณสุขที่เข้มงวดเพื่อลดการแพร่เชื้อ และลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจาก B.1.1.7 โดยเป็นการซื้อเวลาเพื่อเพิ่มความครอบคลุมในการฉีดวัคซีน”

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐระบุ

CDC ยังระบุด้วยว่า ไวรัสดังกล่าวซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม ทำให้ไวรัสสามารถแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้มากขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะไม่ทำให้เกิดโรคที่รุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตราการแพร่เชื้อที่สูงขึ้นจะหมายถึงผู้ป่วยจำนวนมากขึ้น และจะมีการเสียชีวิตมากขึ้นตามไปด้วย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ม.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top