สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันศุกร์ (15 ม.ค.) คณะกรรมการฉุกเฉินโรคโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ได้แนะนำนานาประเทศให้ยกเลิกเงื่อนไขที่ว่า ผู้ประสงค์จะเดินทางระหว่างประเทศจะต้องเคยฉีดวัคซีนป้องกันหรือแสดงหลักฐานว่ามีภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19
แถลงการณ์จากที่ประชุมครั้งที่ 6 ของคณะกรรมการฯ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี (14 ม.ค.) ระบุว่า คำแนะนำข้างต้นมาจากเหตุผลที่ว่า “ยังมีข้อมูลสำคัญที่เราไม่ทราบแน่ชัดเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการฉีดวัคซีนเพื่อลดการแพร่เชื้อ” และวัคซีนที่พร้อมใช้งานในปัจจุบันนั้นยังคงมีจำนวนจำกัดอย่างมาก
คณะกรรมการเห็นพ้องกันว่า การแพร่ระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ยังคงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (PHEIC) พร้อมชี้ว่า WHO ควรพัฒนาและเผยแพร่จุดยืนด้านนโยบายที่เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขดังกล่าวโดยเร็ว โดยควรประสานงานด้านการกำหนดมาตรฐานสำหรับเอกสารดิจิทัลที่ระบุสถานะการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
สำหรับโรคโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์นั้น คณะกรรมการได้กระตุ้นให้ทั่วโลกเพิ่มขีดความสามารถในการจัดลำดับทางพันธุกรรม พร้อมส่งเสริมการแบ่งปันข้อมูลและการยกระดับความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์เพื่อรับมือกับสิ่งที่ยังไม่ทราบข้อมูลแน่ชัดนี้
คณะกรรมการยังเรียกร้องให้ WHO พัฒนาระบบที่มีมาตรฐานสำหรับการตั้งชื่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โดยหลีกเลี่ยงการอ้างอิงที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ทั้งยังเรียกร้องการจัดสรรให้ผู้คนสามารถเข้าถึงวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ได้อย่างเท่าเทียมผ่านโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ซึ่งเป็นโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ระหว่างประเทศที่นำโดย WHO
ทั้งนี้ คณะกรรมการย้ำเตือนให้บรรดาผู้ผลิตวัคซีนให้ข้อมูลด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพแก่ WHO โดยเร็ว เพื่อเดินเรื่องอนุมัติการใช้ในกรณีฉุกเฉิน เนื่องจากการขาดแคลนข้อมูลดังกล่าว จะเป็นอุปสรรคต่อการสร้างความมั่นใจว่า ทั่วโลกจะสามารถจัดหาวัคซีนได้อย่างทันเวลาและเป็นธรรม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ม.ค. 64)
Tags: WHO, XINHUA, วัคซีนต้านโควิด-19, องค์การอนามัยโลก