บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยสำหรับสัปดาห์ถัดไป (18-22 ม.ค.) มีแนวรับที่ 1,500 และ 1,485 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,535 และ 1,550 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โควิด-19 มาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ผลประกอบการงวดไตรมาส 4/63 ของบจ.ไทย โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีน
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.63 และดัชนี PMI Composite เดือนม.ค.64 ณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/63 ของจีน การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) รวมถึงดัชนี PMI Composite เดือนม.ค.64 ของยูโรโซนและญี่ปุ่น
ทั้งนี้ หุ้นไทยร่วงลงช่วงปลายสัปดาห์ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,519.13 จุด ลดลง 1.13% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 97,857.15 ล้านบาท ลดลง 17.52% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 2.49% มาปิดที่ 349.47 จุด
หุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบช่วงต้นสัปดาห์ ระหว่างประเมินสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ ก่อนจะทยอยปรับตัวขึ้นในช่วงต่อมา ขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศเพื่อเยียวยาผลกระทบของโควิด-19 อย่างไรก็ดี หุ้นไทยร่วงลงในเวลาต่อมาตามแรงขายของกลุ่มนักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากความกังวลเกี่ยวกับการทบทวนหลักเกณฑ์ฟรีโฟลท ประกอบกับมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน เข้ามาลดทอนแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ของนายโจ ไบเดนในช่วงปลายสัปดาห์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ม.ค. 64)
Tags: SET, SET Index, กสิกรไทย, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, บล.กสิกรไทย, หุ้นไทย