นับถอยหลังหุ้น บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ล่าสุดคาดว่าพร้อมเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรกในวันที่ 11 ก.พ.64 เบื้องต้นคาดจะกำหนดราคาราคาเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในวันที่ 3 ก.พ.64 จากกรอบราคา 16-18 บาทต่อหุ้น โดยจะเปิดให้นักลงทุนรายย่อยจองซื้อ 24 ม.ค.-2 ก.พ.64 ส่วนผู้ถือหุ้นของ PTT เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรจองวันที่ 25-28 ม.ค.64 และนักลงทุนสถาบันจองซื้อวันที่ 3-5 ก.พ.64
รายละเอียดการนำเสนอขายหุ้น IPO ของ OR ครั้งนี้ 3,000 ล้านหุ้น (กรณีรวมหุ้นกรีนชู 390 ล้านหุ้น) มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 10 บาท แบ่งเป็น 2,610 ล้านหุ้น จัดสรรดังนี้ เสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นของ PTT ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรร 300 ล้านหุ้น (หุ้น PTT จำนวน 95.1997 หุ้นได้สิทธิจองซื้อหุ้น OR 1 หุ้น), นักลงทุนในประเทศ 1,860 ล้านหุ้น ประกอบด้วย รายย่อย 595.70 ล้านหุ้น และ Cornerstone Investors ในประเทศ 1,264.30 ล้านหุ้น ส่วน Cornerstone Investors ในต่างประเทศ 450 ล้านหุ้น
นางสาวนลินรัตน์ กิตติกำพลรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยกับ “อินโฟเควสท์” ว่า ฝ่ายวิจัยฯมีมุมมองเป็นบวกกับหุ้น PTT แม้ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาใกล้เคียงกับมูลค่าพื้นฐานที่ 45 บาท/หุ้น แต่ระยะสั้นมีปัจจัยบวกสนับสนุนจากหุ้น OR เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยสร้างสีสันให้กับหุ้น PTT เพราะธุรกิจหลักของ OR คือค้าปลีก แตกต่างจากธุรกิจพลังงาน ทำให้หุ้นของ OR สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นไปซื้อขายบน P/E ค่อนข้างสูงเทียบกับกลุ่มพลังงานที่ซื้อขายกันบน P/E แค่ประมาณ 10 เท่า และยิ่งหากหุ้น OR ปรับตัวสูงขึ้นก็จะยิ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนมูลค่าของหุ้น PTT ปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากนี้ จากการสำรวจมูลค่ามาร์เก็ตแคปหุ้น OR บทวิจัยหลายสำนักประเมินเฉลี่ยอยู่ที่ 180,000-270,000 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าพื้นฐานอยู่ที่ 15-23 บาทต่อหุ้น หากเปรียบเทียบกับราคาจองซื้อ IPO จะอยู่ที่ 16-18 บาทต่อหุ้นมองว่ายังมี Upside ที่น่าสนใจและมีปัจจัยบวกจากโอกาสเข้าคำนวณในดัชนี SET50 แบบ fast track ด้วย
ขณะเดียวกัน มีปัจจัยสนับสนุนหุ้น PTT จากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะหากเทียบกับราคาพื้นฐานที่ 45 บาทต่อหุ้น อ้างอิงสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 45 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล แต่ปัจจุบันราคาน้ำมันดิบดูไบขยับมายืนเหนือ 50 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
แต่อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยฯยังไม่ได้ทบทวนปรับเพิ่มประมาณการมูลค่าพื้นฐานของ PTT เพราะมองว่าการฟื้นตัวของราคาน้ำมันเกิดขึ้นช่วงเดือน ม.ค.ถือว่ายังเร็วเกินไปที่จะทบทวนประมาณการในช่วงนี้
“กลยุทธ์การลงทุนในหุ้น PTT แม้ว่าราคาหุ้นจะใกล้กับมูลค่าพื้นฐานแล้ว แต่โดยภาพรวมผลประกอบการปีนี้คาดกำไรปกติของ PTT มีโอกาสเติบโตเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับฐานปี63 ส่วนแนวโน้มกำไรปกติไตรมาส4/63 ดีกว่าไตรมาส3/63 ตามการฟื้นตัวของความต้องการใช้พลังงานในตลาดโลก รวมถึงระยะสั้นมีปัจจัยสนับสนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นและกระแสฟันด์โฟลว์ที่ไหลเข้าหุ้นบิ๊กแคป ทำให้ระยะสั้นก็สามารถเก็งกำไรได้เช่นกัน แต่ควรต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากด้วย”
นางสาวนลินรัตน์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ม.ค. 64)
Tags: IPO, OR, PTT, SET, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, นลินรัตน์ กิตติกำพลรัตน์, ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก, สัมภาษณ์พิเศษ, หุ้นพลังงาน, หุ้นไทย, เอเซีย พลัส, โออาร์