SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,556.77 จุด เพิ่มขึ้น 16.92 จุด (+1.10%) มูลค่าการซื้อขายราว 54,399 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นรับความคาดหวังเชิงบวกเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว หลังนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ หนุนราคาน้ำมันดีดขึ้นดันหุ้นกลุ่มพลังงาน รวมถึงกลุ่มแบงก์รับผลดีไปแล้ว แรงซื้อเข้ามาในหุ้นทั้งสองกลุ่มดันดัชนีทะลุแนวต้าน 1,550 จุด แต่ดัชนีดีดตัวขึ้นมาเร็วกว่า 7% ตั้งแต่ต้นปียังต้องระวังแรงขายทำกำไร แต่ยังคาดว่าจะปิดเหนือ 1,550 จุด มองแนวต้านถัด 1,567 และแนวรับ 1,550 และ 1,535 จุด
- ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,556.77 จุด เพิ่มขึ้น 16.92 จุด (+1.10%) มูลค่าการซื้อขายราว 54,399 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดการซื้อขาย โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,557.26 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,542.42 จุด
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยดีดตัวขึ้นวันนี้จากหุ้น 2 กลุ่มหลัก คือ พลังงานและแบงก์ โดยกลุ่มพลังงานได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับขึ้นเข้าใกล้ระดับ 57 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล สูงสุดในรอบ 11 เดือน หลังซาอุดีอาระเบียจะลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.พ.นี้
ล่าสุดราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยหนุนจากความคาดหวังเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากที่คณะบริหารของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐจะกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ โดยส่งสัญญาณว่าจะประกาศมาตรการครั้งใหญ่หลายล้านล้านดอลลาร์ในวันพฤหัสบดีนี้ ก่อนที่จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 ม.ค.
ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ของสหรัฐ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน จากความคาดหวังเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ส่งผลบวกต่อหุ้นสถาบันการเงิน ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มแบงก์ของไทยด้วย ขณะที่แรงซื้อกลุ่มพลังงานและแบงก์ช่วยผลักดันให้ดัชนีทะลุด่านแนวต้านสำคัญ 1,550 จุดขึ้นมาได้
ประกอบกับการมีวัคซีนต้านโควิด-19 หลายชนิดออกมาในช่วงนี้ก็จะทำให้การฉีดวัคซีนได้ในวงกว้างมากขึ้น ก็จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วขึ้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การที่ดัชนีดีดตัวขึ้นมากว่า 7% ตั้งแต่ต้นปีนี้นับเป็นการปรับตัวขึ้นเร็วทำให้ต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรที่อาจจะมีออกมาบ้างในช่วงบ่าย แต่ยังเชื่อว่าดัชนีจะสามารถปิดเหนือระดับ 1,550 จุดได้ โดยมองแนวต้านต่อไปที่ระดับ 1,567 จุด และแนวรับที่ 1,550 และ 1,535 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
- PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,669.44 ล้านบาท ปิดที่ 44.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
- GPSC มูลค่าการซื้อขาย 3,475.80 ล้านบาท ปิดที่ 87.25 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท
- PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,882.70 ล้านบาท ปิดที่ 112.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.50 บาท
- AEONTS มูลค่าการซื้อขาย 1,477.00 ล้านบาท ปิดที่ 219.00 บาท ลดลง 8.00 บาท
- SCGP มูลค่าการซื้อขาย 1,390.04 ล้านบาท ปิดที่ 44.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ม.ค. 64)
Tags: SET Index, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, บล.ธนชาต, พิชัย เลิศสุพงศ์กิจ, หุ้นพลังงาน, หุ้นแบงก์, หุ้นไทย