รัฐบาลอินเดียออกแถลงการณ์ระบุว่า อินเดียจะเริ่มฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในวันที่ 16 ม.ค. นี้ ให้กับบุคลากรสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด่านหน้าราว 30 ล้านคนเป็นกลุ่มแรก
แถลงการณ์ระบุว่า เมื่อเจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าวได้รับวัคซีนแล้ว กลุ่มต่อไปจะเป็นผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และกลุ่มที่อายุต่ำกว่า 50 ปี ที่มีภาวะโรคอื่นร่วมด้วย ราว 2.7 ล้านคน
นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียได้ตรวจสอบความพร้อมโครงการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 โดยตั้งเป้าฉีดวัคซีนฟรีให้ประชาชน 300 ล้านคนจากทั้งหมด 1.35 พันล้านคนในอินเดีย ให้ได้ในช่วงเดือนมิ.ย.-ส.ค. ปีนี้
ทั้งนี้ อินเดียมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐ โดยในขณะนี้ หน่วยงานด้านเภสัชกรรมของอินเดียได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนต้านโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉินจำนวน 2 รายการคือ วัคซีน Covishield ซึ่งบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด และวัคซีนโควาซิน (Covaxin) พัฒนาโดยภารัต ไบโอเทค และสภาวิจัยทางการแพทย์แห่งอินเดีย (ICMR)
อุตสาหกรรมเภสัชกรรมของอินเดียได้เพิ่มกำลังการผลิตวัคซีน และเดินหน้าลงทุนเพื่อสนับสนุนโครงการฉีดวัคซีนไปทั่วโลก โดยนายโมดีกล่าวว่า อินเดียจะยังคงส่งออกเวชภัณฑ์ รวมถึงวัคซีน ขณะที่บริษัทต่างเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิต
“ทั่วโลกไม่ได้แค่รอวัคซีนจากอินเดีย แต่ยังจับตาดูว่าอินเดียจะดำเนินโครงการฉีดวัคซีนที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้อย่างไร”
นายโมดีกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ม.ค. 64)
Tags: COVID-19, รัฐบาลอินเดีย, วัคซีนต้านโควิด-19, อินเดีย, โควิด-19