ดัชนีกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ พุ่ง 8.63% มาอยู่ที่ 9,583.85 จุด เพิ่มขึ้น 761.20 จุด เมื่อเวลา 10.40 น. หุ้นที่ขยับขึ้นได้ดีด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาคึกคัก ประกอบด้วย หุ้น HANA พุ่ง 10.11% มาอยู่ที่ 51.75 บาท เพิ่มขึ้น 4.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,400.94 ล้านบาท
- หุ้น DELTA พุ่ง 9.47% มาอยู่ที่ 786.00 บาท เพิ่มขึ้น 68.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 865.46 ล้านบาท
- หุ้น CCET พุ่ง 5.13% มาอยู่ที่ 2.46 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท มูลค่าซื้อขาย 59.78 ล้านบาท
- หุ้น SVI บวก 4.22% มาอยู่ที่ 4.94 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 46.30 ล้านบาท
- หุ้น KCE บวก 2.50% มาอยู่ที่ 51.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 242.64 ล้านบาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า เงินบาทกลับมาอ่อนค่าเมื่อวันศุกร์ และผันผวนทั้งวันไปตามแรงเทขายทำกำไร ประกอบกับมีแรงซื้อดอลลาร์ จนทำให้ไปยืนเหนือกว่าระดับ 30 บาทต่อเหรียญสหรัฐ
ฝ่ายวิจัยมองผลกระทบ ปกติ SET จะไปได้ไม่ดี เวลาบาทอ่อนค่า โดยเฉพาะกับนักลงทุนต่างประเทศ ด้านผลกระทบคือ จะดีกลับกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เช่น บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA), บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส (HANA), บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE)
ด้านบล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า หากพิจารณาราคาหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (ETRON) นี้ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มองตัว Laggard ที่น่าสนใจสำหรับการ”เก็งกำไร”ในระยะสั้นได้แก่ HANA
ส่วนบล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุแนะ “ซื้อ” หุ้น HANA ในระยะสั้น ราคาสามารถยืนเหนือแนวต้าน 46.50 บาทได้ แสดงถึง Momentum เชิงบวกของรอบที่ยังคงแข็งแกร่ง วางแนวต้านรอทดสอบที่ 49/50.50 บาท ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 46.50 บาท และมี Stop loss 45 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ม.ค. 64)
Tags: CCET, DELTA, HANA, KCE, SVI, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, หุ้นไทย, อิเล็กทรอนิกส์, ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส, เคซีอี อีเลคโทรนิคส์, เดลต้า อีเลคโทรนิคส์, เอสวีไอ, แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์