MSCI และ FTSE Russell ซึ่งเป็นบริษัทจัดทำดัชนีระดับโลก ประกาศถอดหุ้นของบริษัทสื่อสารจีน 3 แห่ง ซึ่งได้แก่ ไชน่าโมบาย, ไชน่าเทเลคอม และไชน่ายูนิคอม ออกจากการคำนวณในดัชนี หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศแบนบริษัททั้ง 3 ดังกล่าว
ทั้งนี้ FTSE Russell ระบุในแถลงการณ์วันที่ 7 ม.ค.ว่า จะถอดหุ้นของบริษัทสื่อสารจีนทั้ง 3 แห่งนี้ออกจากการคำนวณดัชนี FTSE Global Equity Index, ดัชนี FTSE Global China A Inclusion Indexes และดัชนีอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ส่วน MSCI จะถอดหุ้นของบริษัททั้ง 3 ออกจากการคำนวณดัชนีหุ้นทั่วโลก โดยจะมีผลตั้งแต่วันนี้ (8 ม.ค.)
การตัดสินใจของ MSCI และ FTSE Russell สอดคล้องกับที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ได้ประกาศปลดหลักทรัพย์ของ 3 บริษัทสื่อสารรายใหญ่ของจีนออกจากตลาด เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งของคณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ประกาศขึ้นบัญชีดำบริษัทที่ถูกควบคุมหรือเป็นเจ้าของโดยกองทัพจีน
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามบังคับใช้กฎหมาย “The Holding Foreign Companies Accountable Act” ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่ที่พุ่งเป้าถอดหุ้นของบริษัทต่างๆ ออกจากตลาดหุ้นสหรัฐ หากไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการตรวจสอบบัญชี Public Accounting Oversight Board (PCAOB) ของสหรัฐภายในระยะเวลา 3 ปี
ทั้งนี้ แม้กฎหมายดังกล่าวจะออกมาเพื่อบังคับใช้กับบริษัทต่างชาติทั้งหมดที่จดทะเบียนในสหรัฐ แต่ก็ถูกมองว่าเป็นการพุ่งเป้าไปที่บริษัทของจีนโดยเฉพาะ ซึ่งนับเป็นความพยายามอีกครั้งของรัฐบาลปธน.ทรัมป์ที่จะเพิ่มความตึงเครียดกับจีนในสัปดาห์ท้ายๆ ก่อนที่ทรัมป์จะอำลาตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ม.ค. 64)
Tags: FTSE Russell, MSCI, ตลาดหุ้น, หุ้นจีน, หุ้นสื่อสาร, ไชน่ายูนิคอม, ไชน่าเทเลคอม, ไชน่าโมบายล์