หุ้น KTC ปิดเทรดช่วงเช้าพุ่ง 16.98% มาอยู่ที่ 77.50 บาท เพิ่มขึ้น 11.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 2,929.80 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 66.25 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 79.25 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 66.25 บาท
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์นแนะ “ถือ” หุ้นบมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) แต่ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 60.00 บาท อิง 2564 PBV ที่ 5.9x (+1.75SD above 5-yr average PBV) จากเดิม 43.00 บาท อิง 2564 PBV ที่ 4.9x (+1SD) จากการปรับกำไรปี 2564 เพิ่มขึ้น +6% และ re-rate PBV ขึ้นอีก +1SD เพื่อสะท้อนแนวโน้มสินเชื่อและกำไรที่จะกลับมาเติบโตดีตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป
พร้อมประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 4/63 ที่ 1.31 พันล้านบาท (-1.0% YoY, +7% QoQ) โดยลดลง YoY จากรายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลงภายหลังการปรับลดเพดานอัตราผลตอบแทนสินเชื่อลง -2%-3% ในขณะที่เพิ่มขึ้น QoQ จากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย และสำรองลดลง, แต่รายได้หนี้สูญเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 เพิ่มขึ้น +6% เป็น 5.96 พันล้านบาท (+12% YoY) จากการปรับอัตราการขยายตัวของสินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็น +6% (จากเดิม +4%) เพื่อสะท้อนการใช้จ่ายผ่านบัตรที่กลับมาดีขึ้น และปรับลด cost to income ลงเป็น 39% (จากเดิม 44%) เพื่อสะท้อนค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่ลดลง รวมทั้ง synergy ระหว่างธนาคารกรุงไทย (KTB) และ KTC
อย่างไรก็ตามราคาหุ้นปรับตัวขึ้น และ outperform SET +61% และ +107% ในช่วง 3 และ 6 เดือนที่ผ่านมา สะท้อนแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตามแนะนำเพียง “ถือ” จากกำไรจะขยายตัวเพียง +9% 2563-2565 CAGR , ราคาหุ้นปัจจุบันที่เทรดที่ระดับสูงถึง 2564 PBV = 6.5x (+2.2SD) สูงกว่าช่วงปี 2562 ที่กำไรเติบโตสูงถึง +29% (2560-2562 CAGR) ในขณะที่ธุรกิจใหม่ “สินเชื่อพี่เบิ้ม” ยังต้องใช้ระยะเวลาในการขยายตัว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ม.ค. 64)
Tags: KTC, บัตรกรุงไทย, บัตรเครดิต, สินเชื่อบัตรเครดิต, หุ้นไทย, เคทีบี (ประเทศไทย)